บิตคอยน์(BTC) แสดงศักยภาพสินทรัพย์ปลอดภัย รับมือวิกฤตเศรษฐกิจโลก

บิตคอยน์(BTC) กำลังก้าวออกจากความเชื่อมโยงกับตลาดหุ้นสหรัฐฯ และเริ่มยืนหยัดในฐานะ ‘สินทรัพย์ปลอดภัย’ คล้ายทองคำ ท่ามกลางความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ทวีความรุนแรง นักวิเคราะห์ชี้ว่า การเคลื่อนไหวของบิตคอยน์กำลังแสดงให้เห็นรูปแบบที่แตกต่างจากสินทรัพย์ทางการเงินแบบดั้งเดิมอย่างชัดเจน

อเล็กซ์ สวาเนวิก(Alex Svanevik) ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของแพลตฟอร์มข้อมูลคริปโตอย่างนันเซน(Nansen) กล่าวผ่านโซเชียลมีเดียเมื่อไม่นานมานี้ว่า “บิตคอยน์เริ่มเคลื่อนไหวคล้ายทองคำมากกว่าตลาดแนสแด็ก” พร้อมเสริมว่าทิศทางราคาของบิตคอยน์ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นสัญญาณของการเติบโตสู่สถานะของสินทรัพย์ปลอดภัยระดับโลก

ข้อมูลจากตลาดระบุว่า ตั้งแต่ต้นเดือนจนถึงวันที่ 22 เมษายน ราคาบิตคอยน์สามารถฟื้นตัวได้เกือบ 12% ในช่วงที่ข้อพิพาททางภาษีระหว่างสหรัฐฯ และจีนกลับมารุนแรง ความไม่แน่นอนในเศรษฐกิจโลกปรากฏชัดเจน ในขณะที่ตลาดการเงินแบบดั้งเดิมผันผวนหนัก แต่บิตคอยน์กลับใช้โอกาสนี้เสริมภาพลักษณ์ว่าเป็นสินทรัพย์ที่มีการเคลื่อนไหวแยกออกจากระบบเดิม (‘decoupling’) ได้อย่างแข็งแกร่ง

โดยเมื่อวันที่ 9 เมษายน สหรัฐฯ ได้เปิดฉากขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนถึง 125% ขณะที่จีนก็สวนกลับเมื่อวันที่ 12 เมษายน ด้วยการปรับขึ้นภาษีนำเข้าเป็น 125% จากเดิมที่ 84% ท่ามกลางภาวะดังกล่าว บิตคอยน์ยังคงค่อยๆ ปรับขึ้น สะท้อนว่าคริปโตเคอร์เรนซีอาจกลายเป็น ‘ทองคำดิจิทัล’ ที่แยกตัวจากปัจจัยตลาดแบบเดิม

ความเคลื่อนไหวนี้กำลังขับเน้นบทบาทของบิตคอยน์ในฐานะสินทรัพย์หลบภัยที่แท้จริงในภาวะวิกฤต ไม่ใช่แค่เครื่องมือเก็งกำไรเพียงอย่างเดียว นักลงทุนเริ่มมองบิตคอยน์เป็นสินทรัพย์หลักในพอร์ตการลงทุนทั่วโลก โดยเฉพาะเมื่อแนวโน้มเชิงบวกต่อคริปโตจากทรัมป์ เริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น ความไม่แน่นอนด้านนโยบายของสหรัฐฯ ต่อคริปโตเคอร์เรนซีอาจลดลงในอนาคต ความเชื่อนี้กำลังทำให้บิตคอยน์ได้รับความสนใจในระดับสากลอีกครั้งหนึ่ง