ECB ผวา! นโยบายคริปโตสหรัฐฯ อาจดันสเตเบิลคอยน์พุ่ง กระทบอธิปไตยการเงินยุโรป

ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ออกคำเตือนว่าการสนับสนุนอย่างจริงจังของสหรัฐฯ ต่ออุตสาหกรรมคริปโตอาจกลายเป็นภัยคุกคามต่อระบบการเงินของยุโรป โดยเฉพาะความเปลี่ยนแปลงในนโยบายที่เป็นมิตรต่อคริปโตของประธานาธิบดีทรัมป์ อาจส่งผลให้ ‘สเตเบิลคอยน์’ ที่อิงกับดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่ง ECB กังวลว่าจะนำไปสู่การไหลออกของเงินทุนจากยุโรป พร้อมกับกระทบต่ออธิปไตยทางการเงินของภูมิภาค

เมื่อวันที่ 24 (เวลาท้องถิ่น) สื่อ Politico รายงานว่า ECB ได้ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมาธิการยุโรป ให้พิจารณาทบทวนกฎหมายกำกับสินทรัพย์ดิจิทัล MiCA (Markets in Crypto Assets) ที่เพิ่งมีผลบังคับใช้เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยระบุว่าร่างกฎหมายใหม่ของสหรัฐฯ เช่น ร่างกฎหมาย STABLE และร่างกฎหมาย GENIUS ที่อยู่ระหว่างการผลักดัน อาจทำให้ตลาดคริปโตของยุโรปหันไปใช้สินทรัพย์ที่อิงกับดอลลาร์อย่างรวดเร็ว หากไม่ดำเนินมาตรการป้องกันไว้ล่วงหน้า

ECB ให้เหตุผลว่า หากแนวโน้มดังกล่าวเกิดขึ้นจริง ยุโรปอาจต้องเผชิญกับความเสี่ยงด้าน ‘สภาพคล่อง’ ในภาคธนาคาร โดยเฉพาะเมื่อสเตเบิลคอยน์ที่ออกในยุโรปไม่สามารถแข่งขันได้ในระดับโลก ขณะที่ฝ่ายสนับสนุนในรัฐบาลของทรัมป์กลับกำลังเร่งขับเคลื่อนสเตเบิลคอยน์ในสหรัฐฯ อย่างเต็มที่ ความเปลี่ยนแปลงนี้จึงอาจกลายเป็นปัจจัยเร่งให้สหรัฐฯ เข้าควบคุมตลาดการเงินดิจิทัลระดับโลกได้อย่างเบ็ดเสร็จ

อย่างไรก็ตาม คณะกรรมาธิการยุโรปดูเหมือนจะยังไม่เห็นพ้องกับความกังวลของ ECB โดยแหล่งข่าวทางการทูตของสหภาพยุโรปเปิดเผยว่า “หลายประเทศสมาชิกยังไม่เห็นว่าควรเร่งปรับนโยบายตามสหรัฐฯ ในเวลานี้” พร้อมเสริมว่ากฎหมาย MiCA ที่มีอยู่ก็สามารถรองรับความเสี่ยงทางการตลาดได้อยู่แล้ว

จากข้อมูลของ CoinMarketCap มูลค่าตลาดรวมของสเตเบิลคอยน์ทั่วโลกในปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 234.1 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 341.6 ล้านล้านวอน ซึ่ง ECB ระบุว่า หากผู้ออกสเตเบิลคอยน์ในยุโรปต้องเผชิญกับแรงกดดันในการไถ่ถอนจากนักลงทุนทั้งในและนอกภูมิภาค อาจเกิดสถานการณ์คล้ายกับ ‘แบงก์รัน’ ในตลาดการเงินก็เป็นได้

ในมุมมองของผู้เชี่ยวชาญด้านการเทรดคริปโตอย่าง มิโกะ โอทามา(Mikko Ohtamaa) ผู้ร่วมก่อตั้ง Trading Strategy กล่าวว่าความวิตกของ ECB นั้นไม่ใช่เรื่องเกินไป แต่ก็ชี้ว่าทางยุโรปได้ ‘ทำโอกาสหลุดมือ’ ในการเป็นผู้นำด้านกฎระเบียบในอุตสาหกรรม เพราะกฎหมาย MiCA ถูกควบคุมมากเกินไปเนื่องจากแรงกดดันจากภาคการเงินแบบดั้งเดิม เขาตั้งข้อสังเกตว่า ตอนนี้ยังไม่มีสเตเบิลคอยน์ใดในยุโรปที่สามารถแข่งขันในระดับโลกได้อย่างแท้จริง

*คำสำคัญ: สเตเบิลคอยน์, ธนาคารกลางยุโรป, MiCA, ทรัมป์, คริปโต*