บิตคอยน์(BTC) อาจพุ่งแตะ 140,000 ดอลลาร์ หากเศรษฐกิจสหรัฐอ่อนแรงจุดชนวน QE รอบใหม่

ตลาดแรงงานและความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐยังคงส่งสัญญาณชะลอตัว แต่ในทางกลับกันนักวิเคราะห์บางรายมองว่าสถานการณ์เช่นนี้อาจกลายเป็น ‘ชนวน’ ให้ *บิตคอยน์(BTC)* กลับเข้าสู่รอบขาขึ้นอีกครั้งในเร็ว ๆ นี้ โดยอิงจากข้อมูลในอดีตที่พบว่าเมื่อเศรษฐกิจเริ่มอ่อนแอ ความคาดหวังต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากธนาคารกลางสหรัฐ(Fed) มักส่งผลดีกับสินทรัพย์อย่างบิตคอยน์

เมื่อวันที่ 29 กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยรายงาน *JOLTS* หรือจำนวนตำแหน่งงานที่ยังไม่ถูกจ้าง โดยในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา พบว่าจำนวนเปิดรับสมัครงานอยู่ที่ 7.2 ล้านตำแหน่ง ซึ่งต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 7.5 ล้านตำแหน่ง ขณะเดียวกัน ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในสหรัฐปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ห้า และลดลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2021 สะท้อนว่าความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจกำลังอ่อนตัวอย่างชัดเจน

สถานการณ์นี้ทำให้นักลงทุนหลายคนเริ่มประเมินว่าอาจเป็นสัญญาณล่วงหน้าของการปรับนโยบายการเงิน ไม่ว่าจะเป็นการลดดอกเบี้ยหรือกลับมาใช้มาตรการ *QE* (Quantitative Easing) ซึ่งมักจะส่งผลดีต่อสินทรัพย์ความเสี่ยงสูง เช่น *บิตคอยน์* นักวิเคราะห์บางรายคาดการณ์ว่าหากลำดับเหตุการณ์เป็นไปตามรอบเดิม บิตคอยน์อาจเริ่มเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้นอีกครั้งช่วงกลางเดือนกรกฎาคม โดยในระยะยาวมีการคาดการณ์ว่าราคาของบิตคอยน์อาจแตะระดับ *140,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 2.04 ล้านบาท)* ได้ภายในเดือนตุลาคมปีหน้า

*ความคิดเห็น*: สถานการณ์ทางเศรษฐกิจมหภาคยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อแนวโน้มของสินทรัพย์ดิจิทัล นโยบายการเงินของสหรัฐ โดยเฉพาะการเคลื่อนไหวของ Fed ยังถูกจับตามองเป็นพิเศษ เพราะอาจกลายเป็นตัวแปรเร่งการปรับตัวของราคาคริปโต

อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่ายังเร็วเกินไปที่จะสรุปว่ารูปแบบในอดีตจะเกิดขึ้นซ้ำอีกครั้งในปีนี้ แม้ว่าสัญญาณบางอย่างจะคล้ายคลึงกัน แต่ก็ยังขึ้นอยู่กับปัจจัยพื้นฐานของตลาดและการตัดสินใจของภาครัฐในช่วงถัดไปด้วยเช่นกัน