ผู้บริหาร Plume ชี้ ตลาดโทเคนสินทรัพย์จริงยังไม่พร้อมรับทุนสถาบันเต็มรูปแบบ

คริส ยิน(Chris Yin) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของแพลตฟอร์มริเริ่มตลาดสินทรัพย์จริงบนบล็อกเชนอย่างพลูม(Plume) เปิดเผยว่า การไหลเข้าของ *ทุนสถาบัน* อย่างแท้จริงสู่ตลาดการแปลงสินทรัพย์ในโลกจริงให้เป็นโทเคน (*Real World Asset Tokenization* หรือ *RWA*) ยังต้องใช้เวลาอีกพอสมควร เขาให้สัมภาษณ์กับ Cointelegraph ระหว่างร่วมงาน Token2049 ที่จัดขึ้นในดูไบ โดยระบุว่า ตลาด RWA ในปัจจุบันยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น และการจะจูงใจสถาบันให้เข้ามาลงทุนนั้น จำเป็นต้องแสดง ‘การสร้างมูลค่า’ และ ‘การยอมรับใช้งาน’ ให้เห็นอย่างชัดเจนเสียก่อน

“แนวโน้มนี้จะดำเนินไปอย่างช้าๆ ก่อนที่สถาบันจะให้ความสนใจได้ เราต้องแสดงให้เห็นว่ามีมูลค่าและความต้องการจริงๆ” อินกล่าว พร้อมทั้งชี้ว่า *บิตคอยน์(BTC)* และ *สเตเบิลคอยน์* ใช้เวลานานนับกว่าทศวรรษกว่าจะได้รับการยอมรับจากตลาด จึงไม่น่าแปลกใจหาก RWA จะใช้เวลาในลักษณะเดียวกัน “เพิ่งจะไม่นานมานี้ที่สถาบันเพิ่งเริ่มจริงจังกับการใช้สเตเบิลคอยน์” เขากล่าวเสริม “และตลาดสินทรัพย์โทเคนก็จะเผชิญเส้นทางคล้ายคลึงกัน”

ส่วนหนึ่งที่เขากังวลคือ การประเมินมูลค่าตลาด RWA ในปัจจุบันที่อาจ ‘มองโลกในแง่ดีเกินไป’ โดยแม้ว่าจะมีหลายรายในแวดวงคริปโตประเมินว่า ขนาดตลาด RWA อยู่ที่กว่า *2.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ* (ราว 770,000 ล้านบาท) แต่ในความเป็นจริง อาจยังไม่ถึง ‘ครึ่งหนึ่ง’ ของตัวเลขนั้น คริส อิน ให้เหตุผลว่า “ตัวเลขเหล่านั้นไม่แม่นยำเลย หลายคนยังประเมินสถานการณ์จริงแบบมองโลกสวยเกินไป” เขาประเมินว่า มูลค่าตลาดที่แท้จริงของ RWA อาจอยู่ที่เพียง *1 หมื่นล้านดอลลาร์* (ประมาณ 460,000 ล้านบาท) โดยมีสัดส่วนจำนวนมากกระจุกอยู่ที่พันธบัตรรัฐบาลและทองคำ และเพียงบางส่วนเท่านั้นที่อยู่ในสินทรัพย์เครดิตภาคเอกชน

ทั้งนี้ พลูมเป็นบริษัทโครงสร้างพื้นฐานด้าน RWA ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากบริษัทด้านสินทรัพย์ดิจิทัลชื่อดังอย่าง *แกแล็กซี ดิจิทัล(Galaxy Digital)* โดยมีเป้าหมายในการนำ *สินทรัพย์ดั้งเดิมเข้าสู่บล็อกเชน* และเชื่อมต่อกับโลก *การเงินแบบกระจายศูนย์(DeFi)* อินยังยืนยันว่าเขาเชื่อมั่นในศักยภาพการเติบโตของอุตสาหกรรม RWA แต่ยอมรับว่า การเข้าสู่ระบบการเงินหลักอย่างเต็มรูปแบบนั้น “อาจใช้เวลาหลายปี” ความคิดเห็นดังกล่าวสะท้อนความท้าทายของตลาด RWA ที่แม้จะถูกจับตาว่าเป็นหนึ่งในเทรนด์ใหญ่ของวงการคริปโต แต่หนทางสู่การยอมรับในระดับสถาบันจำเป็นต้องพิสูจน์ ‘ความคุ้มค่า’ ให้ได้เสียก่อน