บทสรุปข่าวคริปโตประจำสัปดาห์นี้เน้นไปที่ประเด็นสำคัญหลากหลาย ตั้งแต่ ‘ประธานาธิบดีทรัมป์’ ที่กล่าวถึงนโยบายคริปโตอย่างตรงไปตรงมาในงานเลี้ยง ไปจนถึงเหตุการณ์แฮ็กครั้งใหญ่ในเครือข่าย ‘ซุย’ โดยข่าวเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงและแรงกระเพื่อมที่ส่งผลกระทบต่อภาพรวมของตลาดคริปโตในช่วงที่ผ่านมา
เมื่อเร็ว ๆ นี้ ‘จัสติน ซัน’ เข้าร่วมงานเลี้ยงส่วนตัวของ *ประธานาธิบดีทรัมป์* และได้เปิดเผยว่าเขาถือครองเหรียญ $TRUMP ซึ่งเป็นมีมโทเคน มูลค่าราว 1.3 ล้านดอลลาร์ ภายในงาน ดังที่รายงานโดยหลายสื่อในวงการ ทรัมป์ได้แสดงความไม่พอใจต่อแนวทางนโยบายคริปโตของรัฐบาลก่อนหน้า พร้อมระบุว่าเป็น “เรื่องที่น่าละอาย” ซึ่ง ‘ความคิดเห็น’ นี้แสดงให้เห็นถึงจุดยืนของเขาที่ค่อนข้างเปิดรับต่อสินทรัพย์ดิจิทัล
อีกด้านหนึ่งของโลกคริปโต เครือข่าย ‘ซุย’ ประสบปัญหาใหญ่ เมื่อตัวกลางการแลกเปลี่ยนแบบกระจายศูนย์ ‘เซทัส โปรโตคอล’ ถูกเจาะระบบ แฮ็กเกอร์ใช้โทเคนปลอมเข้ามาแทรกแซงพูลสภาพคล่องและขโมยทรัพย์สินไปมูลค่ากว่า 260 ล้านดอลลาร์ โดยในจำนวนนี้รวมถึง 12.9 ล้านซุยและ 60 ล้านดอลลาร์ในเหรียญ USD Coin(USDC) ซึ่งเป็น ‘หนึ่งในเหตุการณ์โจมตีทางไซเบอร์ที่ใหญ่ที่สุดในปีนี้’
ในฝั่งของนโยบายสหรัฐ ความเคลื่อนไหวจากรัฐสภาโดดเด่นเช่นกัน เมื่อวุฒิสหรัฐมีมติผ่าน ‘ร่างกฎหมายเจเนียส’ ด้วยคะแนนเสียงเห็นชอบ 66 ต่อ 32 เสียง กฎหมายนี้เปิดทางให้เอกชนสามารถออกเหรียญสเตเบิลคอยน์ได้โดยต้องมีสินทรัพย์ค้ำประกันเต็มจำนวน เช่น ดอลลาร์สหรัฐหรือพันธบัตรรัฐบาล อย่างไรก็ตาม ยังห้ามไม่ให้เหรียญสเตเบิลคอยน์จากต่างประเทศเข้าจดทะเบียนในตลาดศูนย์กลางภายในประเทศ
อีกหนึ่งประเด็นร้อนคือ ‘ข่าวฉาวของเครือข่ายพาย’ ที่ถูกกล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่ภายในมีการ *เทขาย* เหรียญ Pi ถึง 12 ล้านโทเคน รวมมูลค่าราว 8 พันล้านดอลลาร์ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากมีการถอนเหรียญออกจากกระดาน OKX จำนวน 86 ล้านโทเคน จนนำไปสู่การพุ่งขึ้นของราคา ก่อนจะรูดลงมากกว่า 50% จบที่ระดับประมาณ 0.79 ดอลลาร์ ซึ่ง ‘ความคิดเห็น’ ในวงการมองว่าเป็นผลจากการขาดความโปร่งใส
ขณะเดียวกัน รัฐต่าง ๆ ในสหรัฐเริ่มแสดงจุดยืนชัดเจนยิ่งขึ้น เช่น เท็กซัสที่ผ่าน ‘ร่างกฎหมายบิตคอยน์สำรอง’ ในชั้นสภาผู้แทนด้วยคะแนน 101 ต่อ 42 เหลือเพียงการลงนามจากผู้ว่าการรัฐ เกร็ก แอ็บบอต คาดว่าการลงนามจะเกิดขึ้นก่อนถึงกำหนดในวันที่ 2 มิถุนายนนี้
สุดท้าย ‘ไมโครสเตรทีจี’ ได้รับความสนใจมากขึ้นอีกครั้ง หลังมีการเปิดเผยว่ารัฐต่าง ๆ ในสหรัฐจำนวน 14 รัฐ ได้ลงทุนในหุ้น MSTR ช่วงไตรมาสแรกปีนี้รวม 632 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นกว่า 42% จากไตรมาสก่อน โดยแคลิฟอร์เนียถือสัดส่วนสูงสุดที่ 276 ล้านดอลลาร์ แสดงถึงความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นในบริษัทที่ถือครองบิตคอยน์อันดับต้น ๆ ของโลก
‘ความคิดเห็น’ ในภาพรวมประจำสัปดาห์นี้คือ ปัจจัยด้านการเมือง, ความมั่นคงของเครือข่าย, และท่าทีของหน่วยงานรัฐ ยังคงเป็น ‘แรงขับเคลื่อนหลัก’ ที่ส่งผลต่อทั้งราคาและความเชื่อมั่นของนักลงทุนในวงการคริปโตอย่างมีนัยสำคัญ
ความคิดเห็น 0