บริษัทชำระเงินระดับโลกอย่าง สไตรป์(Stripe) กำลังอยู่ระหว่างการเจรจาเบื้องต้นกับธนาคารรายใหญ่ เพื่อหารือเกี่ยวกับการบูรณาการ *เหรียญเสถียร* เข้ากับระบบการเงินแบบดั้งเดิม ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าภาคการเงินโลกกำลังขยับเข้าใกล้การยอมรับ *คริปโตเคอร์เรนซี* มากขึ้น
เมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา สไตรป์ได้เปิดตัวบัญชีการเงินที่ใช้ *เหรียญเสถียร* เป็นฐานในกว่า 100 ประเทศ ทำให้ได้รับความสนใจจากตลาดเป็นอย่างมาก โดยบริษัทเปิดเผยว่า ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามจากหลายสถาบันการเงินระดับโลก โดย *เหรียญเสถียร* คือสกุลเงินดิจิทัลที่มีการตรึงมูลค่ากับสกุลเงินรัฐบาล เช่น ดอลลาร์สหรัฐ
จอห์น คอลลิสัน(John Collison) ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานของสไตรป์ เปิดเผยในการให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคมว่า “จากการพูดคุยกับธนาคารหลายแห่ง เราเห็นความสนใจอย่างจริงจังต่อการใช้ *เหรียญเสถียร* ซึ่งไม่ได้ถูกมองว่าเป็นกระแสชั่วคราวอีกต่อไป แต่เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ระยะยาว”
แรงจูงใจสำคัญที่ทำให้ธนาคารเริ่มหันมาสนใจ *เหรียญเสถียร* คือ *การลดต้นทุนธุรกรรม* ไม่ว่าจะเป็นด้านการโอนเงินหรือการแปลงสกุลเงิน คอลลิสันระบุว่า “ระบบโอนเงินระหว่างประเทศในปัจจุบัน ทั้งช้าและมีต้นทุนสูง ต้องใช้เวลาหลายวัน ซึ่งทำให้เกิดความไม่พอใจอย่างกว้างขวาง และท้ายที่สุดวิธีการแบบเดิมที่เคยให้ผลกำไรงามจะถูกท้าทาย”
หากแผนความร่วมมือครั้งนี้เดินหน้าสู่ขั้นตอนที่เป็นรูปธรรม ก็จะกลายเป็นตัวบ่งชี้สำคัญว่า ธนาคารระดับโลกมีแนวโน้มจะนำ *เหรียญเสถียร* ไปใช้เชิงพาณิชย์ได้มากน้อยเพียงใด โดยเฉพาะในช่วงที่แนวโน้มการรีเทิร์นของ *ประธานาธิบดีทรัมป์* อาจส่งผลให้ทิศทางนโยบายสินทรัพย์ดิจิทัลของสหรัฐมีความผันผวนมากขึ้น บริษัทเทคโนโลยีทางการเงินเอกชนอย่างสไตรป์จึงอาจมีบทบาทนำในการผลักดันนวัตกรรมก่อนภาครัฐจะตามทัน
ความคิดเห็น 0