ส.ส.รีพับลิกันถูกจับตา หลังล่าช้ารายงานลงทุนบิตคอยน์(BTC) มูลค่าสูงถึง 500,000 ดอลลาร์

แบรนดอน กิล(Brandon Gill) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรครีพับลิกันของสหรัฐฯ กำลังตกเป็นประเด็นร้อนในแวดวงการเมืองและคริปโต หลังล่าช้าจากกำหนดเวลาในการรายงานการลงทุนใน *บิตคอยน์(BTC)* อาจเข้าข่ายละเมิดกฎหมายของรัฐบาลกลาง โดยยิ่งได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นจากข้อเท็จจริงที่ว่าเขาเป็นผู้เสนอร่างกฎหมายเพื่อนำภาพ ‘ประธานาธิบดีทรัมป์’ ไปพิมพ์บนธนบัตร 100 ดอลลาร์สหรัฐ

จากรายงานพบว่า กิลได้ซื้อ *บิตคอยน์(BTC)* เป็นสองครั้งในวันที่ 29 มกราคมและ 27 กุมภาพันธ์ โดยมีมูลค่าระหว่าง 101,000 ถึง 250,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อครั้ง หรือมากถึง 500,000 ดอลลาร์ (ราว 6.8 ล้านบาท) รวมทั้งหมด ทั้งนี้ ตามกฎหมาย ‘Stop Trading on Congressional Knowledge Act’ หรือ 'STOCK Act' สมาชิกสภาคองเกรสต้องรายงานธุรกรรมทางการเงินภายใน 45 วัน แต่พบว่ากิลยื่นรายงานเกินกำหนดไปหลายสัปดาห์

กฎหมายฉบับนี้ถูกออกแบบเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองใช้ข้อมูลภายในเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว และเพื่อหลีกเลี่ยงผลประโยชน์ทับซ้อน อย่างไรก็ตาม ยังมีรายงานการฝ่าฝืนอยู่หลายกรณีในระยะหลัง โดยเฉพาะในช่วงที่มูลค่าคริปโตทรัพย์สินกำลังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง

จุดที่หลายฝ่ายตั้งข้อสงสัยคือ ‘ช่วงเวลา’ ของการซื้อขาย ในช่วงหลังการซื้อขายครั้งแรกของกิล ทรัมป์ได้ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อผลักดันความเป็นผู้นำของสหรัฐฯ ในด้านสินทรัพย์ดิจิทัล และการลงทุนครั้งที่สองยังเกิดขึ้นไม่กี่วันก่อนที่ทรัมป์จะเปิดเผยแผน ‘สะสมบิตคอยน์เชิงกลยุทธ์’ ยิ่งจุดประเด็นว่า เขาอาจได้ใช้ข้อมูลวงในเพื่อเข้าซื้อคริปโต

อย่างไรก็ดี ทางทีมของกิลยังไม่มีแถลงการณ์อย่างเป็นทางการต่อข้อกล่าวหาดังกล่าว *ความคิดเห็น* นักวิเคราะห์เน้นว่า “หากไม่บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดกับเจ้าหน้าที่รัฐ การดำเนินนโยบายเพื่อป้องกันผลประโยชน์ทับซ้อนก็จะไม่มีประสิทธิภาพ” และเรียกร้องให้มีการตรวจสอบโดยละเอียดต่อไปในอนาคต