สภาคองเกรสสหรัฐฯ กำลังแสดงท่าทีที่จะมอบอำนาจกำกับดูแล ‘คริปโตเคอร์เรนซี’ ให้กับคณะกรรมาธิการซื้อขายสัญญาสินค้าโภคภัณฑ์ล่วงหน้า (CFTC) แต่กลับมีคำถามเพิ่มขึ้นว่า *CFTC พร้อมรับบทบาทนี้จริงหรือไม่*
เมื่อเร็ว ๆ นี้ เฟรนช์ ฮิลล์(French Hill) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สหรัฐฯ ได้เปิดเผยร่างกฎหมายชื่อ ‘Clarity Act’ ซึ่งจัดตั้งหมวดหมู่สินทรัพย์ใหม่ในชื่อ ‘สินค้าดิจิทัล (digital commodity)’ และตั้งเป้าให้เหรียญคริปโตที่ผ่านคุณสมบัติบางอย่างสามารถซื้อขายได้บนตลาดรองอย่างเสรีมากขึ้น พร้อมกันนี้ ร่างกฎหมายยังให้อำนาจการกำกับดูแลคริปโตส่วนใหญ่แก่ *CFTC* อย่างชัดเจน
ปัจจุบัน CFTC ปฏิบัติงานภายใต้กรอบ *กฎหมายว่าด้วยการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ (CEA)* ซึ่งได้มีการปรับปรุงมาแล้วหลายครั้งตามสภาพตลาด ขณะที่โครงสร้างองค์กรของ CFTC นั้นคล้ายกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ(SEC) โดยมีกรรมการ 5 คนที่ได้รับการแต่งตั้งจากวุฒิสภา อย่างไรก็ตาม ณ ขณะนี้หนึ่งในตำแหน่งของคณะกรรมการยังว่างอยู่ และคาดว่าจะมีกรรมการบางรายลาออกในเร็ว ๆ นี้
*สิ่งที่น่ากังวล* คือ หากร่าง ‘Clarity Act’ ถูกผ่านเป็นกฎหมายจริง การที่ CFTC ไม่สามารถแต่งตั้งบุคลากรได้ครบ อาจกระทบต่อขีดความสามารถในการกำกับดูแลตลาดคริปโตที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว และในเมื่อเป้าหมายของร่างกฎหมายคือการนำสินทรัพย์ดิจิทัลเข้าสู่ระบบการเงินภาครัฐ บุคลากรและความชำนาญของหน่วยงานจึงเป็น *ปัจจัยสำคัญ* ที่ไม่อาจมองข้าม
แม้ว่าอำนาจของ CFTC จะถูกผลักดันให้เข้มแข็งยิ่งขึ้นในยุคประธานาธิบดีทรัมป์ แต่หากหน่วยงานยังขาดการเตรียมความพร้อมอย่างเป็นระบบ *อาจสร้างช่องว่างในเชิงนโยบาย* และเป็นเหตุให้เกิด ‘พื้นที่ปลอดการกำกับดูแล’ สำหรับสินทรัพย์ดิจิทัล
*ความคิดเห็น*: ท่ามกลางแรงกดดันและความซับซ้อนของตลาดคริปโต คำถามไม่ได้อยู่ที่ว่าใครควรกำกับ แต่คือ ใครมีศักยภาพพอที่จะรับผิดชอบหน้าที่นี้อย่างแท้จริง ในขณะที่กระบวนการถกเถียงในวอชิงตันดีซีเกี่ยวกับกฎระเบียบของคริปโตยังคงเดินหน้าอย่างเข้มข้นต่อไป
ความคิดเห็น 0