ผู้ต้องหา 5 รายรับสารภาพในคดีฉ้อโกงเงินคริปโตมูลค่ารวมกว่า 369,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 51 ล้านบาท) จากการสืบสวนข้ามชาติที่ดำเนินการโดยกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ โดยรายงานระบุว่ากลุ่มผู้ต้องหาดังกล่าวเป็นสมาชิกของเครือข่ายอาชญากรรมระดับโลกที่มีเป้าหมายคือชาวอเมริกัน และเงินที่ถูกหลอกลวงไปได้ถูกส่งต่อไปยังศูนย์กลางหลอกลวงด้านคริปโตในประเทศกัมพูชา
เมื่อวันที่ 24 (เวลาท้องถิ่น) อัยการกลางจากสำนักงานเขตเซ็นทรัลแคลิฟอร์เนียเปิดเผยว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุใช้บริษัทปลอมและบัญชีธนาคารในสหรัฐในการรวบรวมเงินของเหยื่อ ก่อนจะแปลงเงินเหล่านั้นเป็น‘เทเทอร์(USDT)’ และโอนเข้าสู่กระเป๋าเงินคริปโตในกัมพูชา รูปแบบการหลอกลวงดังกล่าวคล้ายคลึงกับ‘โรแมนซ์สแกม’และกลยุทธ์‘เหยื่อล่อลงทุน’ที่แอบอ้างการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งทางอัยการชี้ว่า มีแนวโน้มจะซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึง‘ท่าทีจริงจังของรัฐบาลสหรัฐ’ในการปราบปรามขบวนการอาชญากรรมด้านคริปโตที่มีโครงสร้างฟอกเงินซับซ้อนและมักมีฐานปฏิบัติการในภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะการพุ่งเป้าไปยังเครือข่ายที่อาจมีส่วนเชื่อมโยงกับกลุ่มแฮกเกอร์ลาซารัสซึ่งได้รับการสนับสนุนจากเกาหลีเหนือ
ทั้งนี้ เครือข่ายฉ้อโกงที่แฝงตัวในประเทศกัมพูชาและชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อื่นๆ มีแนวโน้มเติบโตอย่างรวดเร็ว และได้ก่อความเสียหายต่อนักลงทุนทั่วโลก รวมถึงชาวอเมริกันจำนวนมาก สหรัฐจึงได้เร่งประสานความร่วมมือกับประเทศพันธมิตรเพื่อจัดการกับขบวนการข้ามชาติอย่างเข้มข้นมากขึ้น
ความคิดเห็น 0