Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

เตือนภัย! กลโกงลงทุนคริปโตระบาดหนัก สูญกว่า 1.2 หมื่นล้านบาทต่อปี แนะใช้ Chainabuse และ Scamwatch แจ้งเหตุ

การหลอกลวงในวงการคริปโตมักมีความแนบเนียนและซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ โดยกลยุทธ์ที่ใช้กันบ่อยคือการอ้างถึง *"ผลตอบแทนที่แน่นอน"* ผ่านการแนะนำจากคนรู้จักหรือบุคคลที่รู้จักกันผ่านโซเชียลมีเดีย ซึ่งมักชักชวนให้ลงทุนในบิตคอยน์(BTC) ด้วยข้อความอ้างว่าเป็นโอกาสทองที่ไม่ควรพลาด แต่เมื่อเหยื่อตกลงใจลงทุนจริง กลับพบว่าอีกฝ่ายตัดการติดต่อในทันที ทั้งเงิน คริปโต และแม้แต่เงินสดต่างหายไปโดยไร้ร่องรอย ในสถานการณ์ที่การหลอกลวงคริปโตมีความซับซ้อนมากขึ้น การ ‘แจ้งเบาะแส’ จึงกลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยยับยั้งความเสียหายไม่ให้ลุกลาม

แม้ว่าจะไม่สามารถกู้คืนทรัพย์สินที่สูญหายได้โดยตรง แต่การแจ้งเหตุถือเป็นกุญแจสำคัญในการป้องกันเหยื่อรายใหม่ โดยเครื่องมือที่ได้รับความนิยมในการรายงานมีอยู่สองแห่ง นั่นคือ *Chainabuse* และ *Scamwatch* ซึ่งให้บริการในลักษณะที่แตกต่างกัน

*Chainabuse* เป็นแพลตฟอร์มสาธารณะที่เปิดให้ผู้ใช้ทั่วโลกสามารถรายงานการหลอกลวงที่เกี่ยวข้องกับคริปโตผ่านเว็บไซต์ โดยข้อมูลที่รายงานจะถูกแชร์ให้กับผู้ใช้อื่นๆ ช่วยยับยั้งการขยายตัวของภัยคุกคาม พร้อมทั้งสามารถอัปโหลดข้อมูลเกี่ยวกับการหลอกลวง เช่น ที่อยู่กระเป๋าเงินปลอม หรือเว็บไซต์ฟิชชิง รวมถึงข้อมูลเหล่านี้ยังถูกถ่ายทอดไปยังบริษัทคริปโตชั้นนำแบบเรียลไทม์ ซึ่งช่วยในการเชื่อมโยงกรณีที่คล้ายคลึงกันเพื่อระบุโครงข่ายของกลุ่มมิจฉาชีพขนาดใหญ่

ในขณะที่ *Scamwatch* ซึ่งดำเนินการโดยคณะกรรมการการแข่งขันและผู้บริโภคแห่งออสเตรเลีย (ACCC) มีบทบาทเป็นระบบเฝ้าระวังการฉ้อโกงที่เปิดรับแจ้งปัญหาในวงกว้าง รวมถึงคริปโตด้วย แม้ว่าจะไม่ดำเนินคดีหรือทำหน้าที่สอบสวนโดยตรง แต่ข้อมูลที่ถูกรวบรวมจะถูกนำไปวิเคราะห์เพื่อสร้างแนวโน้ม ปรับนโยบาย และประสานกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย นอกจากนี้ Scamwatch ยังให้ความรู้และแจ้งเตือนสาธารณะผ่านช่องทางต่างๆ เช่น คู่มือป้องกันและโพสต์ในโซเชียลมีเดีย เพื่อเสริมสร้างความรู้เท่าทันให้กับประชาชน

ทั้ง *Chainabuse* และ *Scamwatch* จึงมีบทบาทสำคัญในด้าน ‘การป้องกัน’ มากกว่าการช่วยเหลือหลังเกิดเหตุ โดยเน้นการเผยแพร่ข้อมูล รวบรวมหลักฐาน และป้องกันไม่ให้เหตุคล้ายกันเกิดซ้ำ ในกรณีของ *Chainabuse* ยังมีประโยชน์เพิ่มขึ้นโดยสามารถนำข้อมูลรายงานมาใช้เป็นแนวทางเบื้องต้นสำหรับการดำเนินการทางกฎหมาย

ข้อมูลจากสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) ระบุว่าในปี 2024 ศูนย์อาชญากรรมทางอินเทอร์เน็ต (IC3) ได้รับรายงานการฉ้อโกงเกี่ยวกับคริปโตมากถึง *140,000 ครั้ง* รวมความเสียหายเกือบ *12.9 พันล้านวอน* (ประมาณ *1.27 หมื่นล้านบาท*) โดยกลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือผู้สูงอายุวัย 60 ปีขึ้นไปซึ่งสูญเสียรวมกว่า *204 ล้านดอลลาร์สหรัฐ* หรือประมาณ *2.83 พันล้านบาท* แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงความสำคัญของการมีระบบรับมือและการแจ้งเตือนภัยฉ้อโกง

สำหรับใครที่ต้องการแจ้งเหตุผ่าน *Chainabuse* สามารถเข้าเว็บไซต์ทางการ คลิกที่ ‘รายงานเหตุการณ์’ และเลือกประเภทของการฉ้อโกงจากตัวเลือกดรอปดาวน์ จากนั้นกรอกรายละเอียดให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เช่น ที่อยู่กระเป๋าของผู้ต้องสงสัย ช่องทางการติดต่อ วิธีการหลอกลวง และหากมี รูปภาพหรือไฟล์แนบที่เกี่ยวข้องก็สามารถเพิ่มเข้าไปด้วยเพื่อให้ข้อมูลมีน้ำหนักมากขึ้น

แม้การแจ้งความอาจยังไม่นำไปสู่การคืนเงินโดยทันที แต่การมีส่วนร่วมในการแบ่งปันข้อมูลเหล่านี้ถือเป็น ‘ก้าวแรก’ ที่สำคัญสู่การปกป้องตัวเองและชุมชนคริปโต โดยเฉพาะผู้ที่ถือครองบิตคอยน์หรือเหรียญอื่นๆ ควรใช้ความระมัดระวังเมื่อได้รับข้อเสนอที่ดูดีเกินจริง และหมั่นแจ้งเตือนสาธารณะหากพบสิ่งผิดปกติเล็กน้อย เพื่อลดโอกาสเกิดความเสียหายที่ใหญ่กว่าในอนาคต

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1