Grok AI ของ Elon Musk กลายเป็นเครื่องมือลับของนักเทรดคริปโต จับกระแสเหรียญมีมแบบเรียลไทม์

ในตลาดคริปโตที่การจับเทรนด์แบบเรียลไทม์เริ่มกลายเป็นสิ่งสำคัญมากขึ้นทุกวัน ‘กรอก(Grok)’ ปัญญาประดิษฐ์แบบสนทนา ที่พัฒนาโดยบริษัท xAI ของอีลอน มัสก์(Elon Musk) กลายเป็นเครื่องมือที่ได้รับความสนใจในหมู่เทรดเดอร์ เนื่องจากความสามารถในการตรวจจับ ‘กระแส’ ที่เกิดขึ้นบนโซเชียลมีเดีย X (ชื่อเดิมคือทวิตเตอร์) อย่างแม่นยำและรวดเร็ว แตกต่างจากเครื่องมือวิเคราะห์กราฟแบบเดิม กรอกสามารถวิเคราะห์อารมณ์ของตลาดและการเล่าเรื่องเกี่ยวกับเหรียญมีม เพื่อจับการเปลี่ยนแปลงเชิงจิตวิทยาที่ละเอียดอ่อนที่สุดในตลาดได้

หนึ่งในจุดเด่นของกรอก คือการทำงานร่วมกับแพลตฟอร์ม X ได้โดยตรง สามารถประมวลผลโพสต์เรียลไทม์นับพันรายการ เพื่อตรวจพบความถี่ของการกล่าวถึงเหรียญต่างๆ และคำสำคัญทางอารมณ์ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งช่วยให้เทรดเดอร์สามารถ ‘จับกระแส’ ได้ตั้งแต่เนิ่นๆ นักลงทุนรายย่อยบางรายที่เคยพึ่งพาดิสคอร์ดหรือระบบแจ้งข่าว ก็เริ่มใช้กรอกเพื่อดักจับเหรียญที่จะพุ่งแรงแบบฉับพลัน หรือเพื่อตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ที่รวดเร็วในตลาด ตัวอย่างเช่น ชุมชนนักพัฒนาได้สังเกตว่า บัญชีผู้ใช้บน X ที่น่าเชื่อถือหลายรายเริ่มพูดถึงโฟลกิ(FLOKI) ซ้ำๆ ซึ่งกรอกสามารถแจ้งเตือนเหตุการณ์นั้นได้อย่างแม่นยำ และพบว่าราคาของ FLOKI เคลื่อนไหวตามมาหลังจากนั้นไม่นาน

แม้กรอกจะยังไม่สามารถออกแบบกลยุทธ์เทรดด้วยตนเอง หรือทำหน้าที่เป็นระบบเทรดอัตโนมัติได้ แต่ก็ได้รับการยอมรับว่าเหมาะสำหรับใช้เป็น ‘เครื่องมือเสริม’ ในการตัดสินใจลงทุน ยิ่งเมื่อใช้งานร่วมกับโมเดลอย่างแชตจีพีที(ChatGPT) ก็สามารถแบ่งบทบาทในการวิเคราะห์ได้ชัดเจน—กรอกใช้สำหรับตรวจจับสัญญาณข่าว และแชตจีพีทีจะใช้ในขั้นตอนการตั้งค่ากลยุทธ์หรืออัลกอริทึมการเทรด

‘คำ’ ที่ทำให้กรอกได้รับความสนใจมากขึ้นคือกรณีที่โพสต์เดียวสามารถเขย่าตลาดได้ ยกตัวอย่างเมื่อวันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา ทรัมป์ได้โพสต์ภาพกบมีม ‘เปเป้(PEPE)’ ลงใน X ส่งผลให้ราคาของโทเคน PEPE พุ่งขึ้นถึง 12.2% ทะลุระดับ 0.000009 ดอลลาร์ แม้จะไม่สามารถยืนยันได้ว่าโพสต์นั้นคือสาเหตุโดยตรง แต่ก็ชัดเจนว่าราคาขยับก่อนที่ข่าวจะส่งต่อไปยังแหล่งอื่น ทำให้นักเทรดทั่วไปไม่มีเวลาตอบสนองทัน นี่จึงเป็นพื้นที่ที่กรอกเริ่มแสดงบทบาทได้โดดเด่นในฐานะ ‘เครื่องส่งสัญญาณ’ แบบเรียลไทม์เพื่อลดช่องว่างในการตัดสินใจ

ตลาดมีมโทเคนมีลักษณะที่ตอบสนองต่อ ‘อารมณ์ของผู้ใช้งาน’ ได้เร็วกว่าข่าวทั่วๆ ไป ทำให้กรอกเหมาะกับนักเทรดที่ให้ความสำคัญกับ ‘คำ’ ที่บ่งบอกกระแสความรู้สึกมากกว่าข้อมูลพื้นฐาน แม้ตัว AI จะยังอยู่ในระยะทดลอง แต่ก็เริ่มแสดง ‘ความคิดเห็น’ ว่ามีคุณค่าในฐานะระบบเฝ้าระวังที่ช่วยติดตามอารมณ์ตลาด และตอบสนองต่อมันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าการวิเคราะห์ข้อมูลเพียงทางเดียว