ริปเปิล(XRP) มีแนวโน้มก้าวขึ้นสู่เวทีหลักของโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินระดับโลก หลังจากที่ แบรด การ์ลิงเฮาส์(Brad Garlinghouse) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของริปเปิล เปิดเผยในงาน ‘XRP APEX 2025’ ที่จัดขึ้นในสิงคโปร์ว่า XRP อาจรองรับการทำธุรกรรมข้ามพรมแดนจากระบบของ SWIFT ได้ถึง *14%* ภายใน 5 ปีข้างหน้า ซึ่งมูลค่ารวมในการทำธุรกรรมเหล่านี้อาจแตะระดับ *21 ล้านล้านดอลลาร์* ต่อปี หรือราว *2 ตันล้านล้านวอน* โดยเขาเชื่อว่าโครงสร้างด้าน *สภาพคล่อง* ของ XRP มีความสามารถเพียงพอในการรองรับปริมาณธุรกรรมในระดับนี้
การ์ลิงเฮาส์ชี้ว่า แตกต่างจาก *SWIFT* ที่เน้นการส่งข้อความระหว่างธนาคารเป็นหลัก XRP มุ่งเน้นไปที่การ *เคลื่อนย้ายเงินจริง* ซึ่งมีคุณค่าแท้จริงอยู่ที่ *สภาพคล่อง* นั่นเอง “คุณค่าที่แท้จริงของธุรกรรมทางการเงินคือสภาพคล่อง และนั่นคือจุดแข็งที่สุดของ XRP” เขากล่าว พร้อมเน้นว่า XRP ในฐานะสินทรัพย์สะพาน (Bridge Asset) ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการโอนเงินระหว่างสกุลที่หลากหลาย ทั้งรวดเร็วและต้นทุนต่ำ
ปัจจุบันระบบของ SWIFT มีปริมาณธุรกรรมรวมต่อปีสูงถึง *150 ล้านล้านดอลลาร์* หรือราว *2 ตัน 850 ล้านล้านวอน* หาก XRP สามารถเข้ามารองรับเพียง 14% ตามที่การ์ลิงเฮาส์คาดการณ์ ก็จะมีการทำธุรกรรมผ่าน XRP เลจเจอร์(XRPL) มูลค่ารวมถึง *21 ล้านล้านดอลลาร์* ต่อปี อย่างไรก็ตาม เขาเสริมว่า XRP ไม่จำเป็นต้องถือสินทรัพย์มูลค่าทั้งหมดนั้นไว้เอง เพราะสามารถอาศัยแนวคิด *"Token Velocity"* หรือความเร็วในการหมุนเวียนของโทเคน เพื่อประมวลผลธุรกรรมขนาดใหญ่อย่างมีประสิทธิภาพ
ในขณะนี้ XRP มีมูลค่าตลาดตาม CoinMarketCap อยู่ที่ *136,000 ล้านดอลลาร์* หรือราว *189.8 ล้านล้านวอน* ครองอันดับ 4 ของสกุลเงินดิจิทัลที่มีมูลค่าสูงสุด และล่าสุดมีราคาซื้อขายอยู่ที่ราว *2.31 ดอลลาร์* หรือประมาณ *3,211 วอน* โดยได้รับความสนใจมากขึ้นจากนักลงทุนสถาบันที่หันมาให้ความสนใจกับโซลูชันบนบล็อกเชน ทำให้ปริมาณการใช้งานและการหมุนเวียนของ XRP เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ กระแสข่าวความร่วมมือระหว่าง SWIFT และริปเปิลก็ยังดึงดูดความสนใจจากในวงการ โดยก่อนหน้านี้ การ์ลิงเฮาส์เคยกล่าวว่า "ไม่สามารถตัดโอกาสการร่วมมือได้" และอดีตบุคลากรของ SWIFT ก็ออกมาเปิดเผยว่า เคยมีธนาคารระดับโลกบางแห่งทำการทดสอบการใช้งาน *XRP ร่วมกับระบบของ SWIFT* มาแล้ว
ความสำเร็จของ XRP ในการยกระดับขึ้นเป็นเทคโนโลยีกลางของอุตสาหกรรมการเงินจะขึ้นอยู่กับ *สภาพแวดล้อมด้านกฎระเบียบ* และการใช้งานจริงในตลาด แต่ ‘คุณค่าจากความมีสภาพคล่อง’ ที่ XRP มอบให้ กำลังเริ่มเปลี่ยนแปลงทิศทางการไหลเวียนของเงินในระบบการเงินโลกอย่างชัดเจน
ความคิดเห็น 0