ตลาดคริปโตเผชิญแรงเทขายระยะสั้นจากความตึงเครียดในตะวันออกกลาง โดยเมื่อวันที่ 13 ตามเวลาท้องถิ่น มูลค่าตลาดคริปโตทั่วโลกได้ร่วงลงมากกว่า 4% มาอยู่ที่ประมาณ 3.24 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 4,504 ล้านล้านวอน) ซึ่งนักวิเคราะห์ชี้ว่า สาเหตุหลักมาจากสถานการณ์ตึงเครียดจากการที่อิสราเอลโจมตีอิหร่าน ส่งผลให้สภาพจิตวิทยาของนักลงทุนอ่อนแอลง
แรงกระแทกครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อ *ตลาดอนุพันธ์คริปโต* อย่างมีนัยยะ โดยมีการปิดสถานะฟิวเจอร์สคริปโตคิดเป็นมูลค่าราว 115 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1,599 พันล้านวอน) ภายในวันเดียว ในจำนวนนี้เป็นฝั่ง *Long Position* หรือฝั่งที่คาดว่าราคาเพิ่มขึ้น คิดเป็นมูลค่าถึง 1 พันล้านดอลลาร์ (ราว 1.39 ล้านล้านวอน) เนื่องจากช่วงก่อนหน้าตลาดมีสัดส่วนฝั่งซื้อสูง แรงกดดันฝั่งขายจากสถานการณ์ไม่คาดคิดจึงยิ่งรุนแรงขึ้น
อย่างไรก็ตาม ยังมี *ความคิดเห็น* จากนักวิเคราะห์ด้านเทคนิคบางรายว่า ถึงแม้จะเกิดแรงขายในระยะสั้น ตลาดยังคงอยู่ในทิศทางขาขึ้น โดยกราฟภาพรวมของมูลค่าตลาดคริปโตทั้งหมดกำลังสร้างรูปแบบ ‘ธงกระทิง (Bull Flag)’ ซึ่งเป็นสัญญาณของการพักตัวชั่วคราวในช่วงขาขึ้น แสดงให้เห็นว่า การปรับฐานรอบนี้อาจเป็นเพียงการชะลอตัวระยะสั้นก่อนที่ราคาจะฟื้นตัวอีกครั้ง
ในมุมมองของผู้เชี่ยวชาญ ปัจจัยที่จะส่งผลต่อทิศทางของตลาดคริปโตในอนาคตยังรวมถึงนโยบายการเงินของสหรัฐ ประเด็นด้านอุปสงค์-อุปทานของอีทีเอฟบิตคอยน์(BTC) และแนวทางที่ *ประธานาธิบดีทรัมป์* เปิดเผยจุดยืนที่เป็นมิตรกับวงการคริปโต ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นตัวแปรสำคัญที่ลงทุนควรจับตา พร้อม *คำแนะนำ* ให้ระมัดระวังปัจจัยเสี่ยงระยะสั้น ควบคู่กับการประเมินแนวโน้มระยะยาวอย่างรอบคอบ
ความคิดเห็น 0