ชิบะอินุ(SHIB) ส่อขาลงหนัก! วาฬเทขายพุ่ง 1,600% ดันราคาใกล้หลุดแนวรับสำคัญ

ชิบะอินุ(SHIB) ส่งสัญญาณ ‘ขาลง’ อีกครั้ง หลังพบการถอนโทเคนของผู้ถือรายใหญ่พุ่งกว่า 1,600% ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา สร้างความกังวลให้กับนักลงทุนอย่างมาก ขณะที่ปริมาณซื้อขายโดยรวมกลับลดลงอย่างมาก การเคลื่อนไหวดังกล่าวของเหล่า ‘วาฬ’ ในระบบนิเวศของชิบะอินุถูกมองว่าเป็นสัญญาณเตือนขั้นวิกฤติ

ข้อมูลจากอินทูเดอะบล็อก(IntoTheBlock) แสดงให้เห็นว่า การไหลเข้าไปยังวอลเล็ตของบัญชีที่ถือ SHIB ในปริมาณมากลดลงถึง *98.6%* ขณะเดียวกันก็มีการไหลออกเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ความเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ใช่แค่ปรากฏการณ์ทางเทคนิคชั่วคราว แต่สะท้อนถึง *แนวโน้มขาลงระยะกลางถึงระยะยาว* ได้อย่างชัดเจน

ราคาของโทเคน SHIB ก็แสดงอาการอ่อนตัว โดยหลุดแนวรับหลักที่ 0.000013 ดอลลาร์และ 0.000012 ดอลลาร์ตามลำดับ และขณะนี้เคลื่อนไหวอยู่บริเวณ 0.0000119 ดอลลาร์ พร้อมแรงกดดันต่อเนื่องจากการขาย

ด้านตัวชี้วัดทางเทคนิคก็ไม่เป็นมิตรเท่าไรนัก ดัชนี RSI กำลังร่วงสู่เขต *ขายมากเกินไป* (Oversold) และราคาก็กำลังเผชิญแรงต้านที่แข็งแกร่งจากเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบชี้แจง (EMA) ทั้ง 50, 100 และ 200 วัน ความเสี่ยงที่ราคาจะหลุดแนวรับจิตวิทยาที่ 0.000010 ดอลลาร์จึงถูกหยิบยกขึ้นมาโดยนักวิเคราะห์บางราย ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจริง อาจทำให้มูลค่าตลาดบางส่วนของ SHIB หดหายไปราว *1.39 ล้านบาท* จากอัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบัน

ในอีกมุมหนึ่ง ความคาดหวังที่ว่า ‘วาฬ’ จะกลับมาซื้อ SHIB ก็ดูจะดับลงเรื่อย ๆ แม้จะมีสัญญาณซื้อล่าสุดให้เห็นบ้างในช่วงหลายเดือนก่อน แต่ข้อมูลล่าสุดชี้ให้เห็นว่า นักลงทุนรายใหญ่ต่างเทขายหรือปรับลดการถือครองอย่างต่อเนื่อง ที่น่ากังวลคือยอดซื้อขายในวันที่ราคาลดลงกลับสูงเป็นพิเศษ ซึ่งนักวิเคราะห์หลายคนมองว่านี่ไม่ใช่แค่ ‘การปรับฐาน’ แต่เป็นการ ‘เทขาย’ ที่ชัดเจน

บรรยากาศการลงทุนโดยรวมก็เต็มไปด้วยความระแวดระวัง นักวิเคราะห์บางรายแสดง *ความคิดเห็น* ว่า จนกว่าราคาจะกลับมายืนเหนือ 0.0000135 ดอลลาร์ได้อีกครั้งพร้อมแรงซื้อที่ชัดเจน การกลับตัวในระยะสั้นก็ยังไม่น่าเป็นไปได้ กล่าวอีกแบบคือ ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่ดีสำหรับ ‘ซื้อของถูก’

หากชิบะอินุต้องการหาจุดกลับตัวในสถานการณ์เช่นนี้ *แรงซื้อจากวาฬ* หรือการฟื้นตัวของความเชื่อมั่นในตลาดเหรียญมีมโดยรวม ต้องเกิดขึ้นอย่างชัดเจน มิฉะนั้น กระแสการเทขายที่เกิดขึ้นอาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น ชะตากรรมของ SHIB จึงขึ้นอยู่กับการ *ฟื้นตัวของอุปสงค์อย่างแท้จริง* มากกว่าการรีบาวด์ทางเทคนิคในระยะสั้น