พายเน็ตเวิร์ก(Pi Network) เจอกระแสวิจารณ์ หลังเปิดตัวระบบโดเมน .pi รับงาน Pi2Day 2025

เครือข่ายพาย(Pi Network) กำลังเผชิญกระแสความไม่พอใจจากผู้ใช้ หลังจากมีการเปิดตัวระบบประมูลโดเมนใหม่ ‘.pi’ เพื่อต้อนรับงาน ‘พายทูเดย์(Pi2Day) 2025’ ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 28 มิถุนายน โดยผู้ใช้จำนวนมากแสดงความผิดหวัง เนื่องจากมองว่าเป็นความคืบหน้าแบบ ‘เชิงสัญลักษณ์’ ที่ห่างไกลจากความคาดหวังของตลาด

ทีมหลักของพาย(Pi Core Team) ได้เปิดตัวแอปพลิเคชันเฉพาะสำหรับประมูลโดเมน พร้อมฟีเจอร์แจ้งเตือนผ่านอีเมลและระบบติดตามสถานะการประมูล อย่างไรก็ตาม หลายเสียงในชุมชนชี้ว่าการอัปเดตนี้ยังไม่ใช่ ‘ความเคลื่อนไหวจริงจัง’ ที่สามารถส่งผลเชิงบวกต่อระบบเศรษฐกิจของพายคอยน์(PI) ได้

แม้การประมูลโดเมนจะเริ่มต้นมาตั้งแต่ 3 เดือนก่อน แต่ยอดการประมูลจนถึงขณะนี้ยังอยู่ที่ราว 3 ล้าน PI หรือประมาณ 2,500 ล้านบาท ซึ่งถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับมูลค่าการซื้อขายรายวันของ PI ที่สูงถึง 1.39 ล้านล้านวอน หรือประมาณ 37,000 ล้านบาทในตลาด OTC ปัจจุบัน PI ซื้อขายอยู่ที่ราว 0.60 ดอลลาร์ต่อเหรียญ หรือประมาณ 835 บาท โดยมูลค่าของเหรียญตกลงถึง 60% ภายในหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนลดลงอย่างเห็นได้ชัด

“ความหวังว่าพายจะออกข่าวดีเพื่อยกระดับราคาเหรียญ กลับถูกทดแทนด้วยระบบโดเมนที่ไม่น่าตื่นเต้น” ความคิดเห็นหนึ่งในชุมชนแสดงความผิดหวัง ขณะที่บางรายเตือนว่า “ถ้าในงานพายทูเดย์มีแค่การพูดถึงโดเมน .pi ก็คงได้เวลาเผชิญมรสุมครั้งใหญ่”

สิ่งที่ผู้ใช้เรียกร้องมากที่สุดในตอนนี้ ได้แก่ ความคืบหน้าในการยืนยันตัวตนแบบ KYC ที่ล่าช้า, ความคืบหน้าในการนำเหรียญไปจดทะเบียนในกระดานเทรดใหญ่ รวมถึงการสร้างแอปพลิเคชันหรือบริการที่ใช้งานได้จริงภายในระบบนิเวศ ปัจจุบันมีเพียง 6 บริษัทเท่านั้นที่ผ่านการยืนยันตัวตนแบบ KYB (สำหรับองค์กร) ได้ และกองทุนลงทุนสตาร์ทอัพมูลค่า 100 ล้านดอลลาร์ (ราว 1.39 พันล้านบาท) ที่ประกาศไปเมื่อเดือนก่อนภายใต้ชื่อ ‘พายเน็ตเวิร์กเวนเจอร์ส’ ก็ยังไม่ได้เปิดเผยว่าลงทุนในโครงการใดเป็นรูปธรรม

ยิ่งไปกว่านั้น ในเดือนกรกฎาคมที่จะถึงนี้ จะมีการปล่อยเหรียญใหม่เข้าสู่ระบบมากถึง 248 ล้าน PI ซึ่งคาดว่าจะสร้างแรงกดดันด้านการขายเพิ่มขึ้น หากทีมพายไม่สามารถเสนอแผนยุทธศาสตร์รับมือที่ชัดเจน ความเสี่ยงด้านราคาและการสูญเสียผู้ใช้จำนวนมากอาจเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว

ความคิดเห็นส่วนใหญ่ชี้ว่า โครงการประมูลโดเมน ‘.pi’ ถือเป็นเพียงพัฒนาการ ‘แบบตั้งรับ’ ที่ยังไม่ตอบโจทย์ความคาดหวังของตลาด ในเวลานี้ พายเน็ตเวิร์กจำเป็นต้องแสดงผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมมากกว่าการสื่อสารเชิงนโยบาย เพื่อรักษาความเชื่อมั่นของผู้ใช้และนักลงทุนที่กำลังลดลงอย่างต่อเนื่อง