เอริก ทรัมป์ปฏิเสธข่าวลือเชื่อมโยงดีล 100 ล้านดอลลาร์ระหว่างทรอน(TRX) กับ SRM เอนเตอร์เทนเมนต์

เอริก ทรัมป์ ปฏิเสธข่าวลืออย่างหนักแน่นเกี่ยวกับการที่เขาและโดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับข้อตกลง *รีเวิร์สเมอร์เจอร์* ระหว่างโครงการทรอน(TRX) และ SRM เอนเตอร์เทนเมนต์ โดยในฐานะรองประธานองค์กรทรัมป์(Trump Organization) เอริกได้โพสต์ผ่านแพลตฟอร์ม X (ชื่อเดิมคือทวิตเตอร์) เมื่อเร็วๆ นี้ว่า ข้อกล่าวหาเหล่านั้น ‘ไม่มีมูลความจริง’ และ ‘ไม่มีการมีส่วนร่วมในระดับสาธารณะ’ แต่อย่างใด ทั้งนี้เขายังแสดงความชื่นชมต่อจัสติน ซัน ผู้ก่อตั้งทรอนอีกด้วย โดยกล่าวถึงซันว่าเป็น ‘บุคคลต้นแบบในวงการคริปโต’

การออกมาปฏิเสธในครั้งนี้มีขึ้นท่ามกลางกระแสข่าวในชุมชนออนไลน์ที่ตั้งข้อสงสัยถึงความเชื่อมโยงระหว่างครอบครัวทรัมป์กับเครือข่ายทรอน ซึ่งเป็นไปได้ว่าเป็นความพยายามเพื่อลดกระแสต่อต้าน ก่อนหน้านี้มีรายงานว่าจัสติน ซันมีบทบาทในการสนับสนุนทั้งด้านการเงินและเทคโนโลยีกับโครงการ World Liberty Financial (WLFI) ของประธานาธิบดีทรัมป์ ส่งผลให้ความสนใจต่อเครือข่ายทรอนในตลาดสหรัฐฯ เพิ่มสูงขึ้น

จุดศูนย์กลางของเรื่องนี้อยู่ที่แผนการของ SRM เอนเตอร์เทนเมนต์ ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นแนสแด็ก ที่กำลังผลักดันข้อตกลงมูลค่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1,390 พันล้านบาท) เพื่อซื้อโทเคนทรอน โดยบริษัทมีแผนจะเพิ่มโทเคน TRX เข้าไปในพอร์ตการเงินของตน รวมถึงขายหุ้นเพื่อให้ได้ทุนสำหรับการลงทุนดังกล่าว จัสติน ซันจะเข้ามารับบทที่ปรึกษาทางด้านกลยุทธ์ให้แก่ SRM โดยบริษัทวางแผนจะใช้ TRX สำหรับการลงทุนผ่านการ *สเตกกิ้ง* เพื่อสร้างรายได้เพิ่มเติม

ริช มิลเลอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ SRM ระบุว่า “ภายใต้กระแสความต้องการเทคโนโลยีบล็อกเชนระดับโลกที่เพิ่มขึ้น เครือข่ายทรอนได้กลายเป็นผู้นำในเรื่องการชำระเงินข้ามพรมแดนผ่านการใช้เหรียญสเตเบิลดอลลาร์ (USD stablecoin)” พร้อมทั้งย้ำว่าเครือข่ายทรอนคือ ‘โครงสร้างพื้นฐานทางการเงินแห่งอนาคต’ ที่มีศักยภาพการเติบโตสูง

ขณะเดียวกัน ประเด็นด้านกฎหมายที่เครือข่ายทรอนเคยถูกสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) ฟ้องร้องก่อนหน้านี้ ได้ถูกระงับชั่วคราวตามคำขอไกล่เกลี่ย ซึ่งส่งสัญญาณบวกต่อทิศทางของทรอนในตลาดอเมริกา แม้เอริก ทรัมป์จะปฏิเสธการมีส่วนร่วมกับทรอนโดยตรง แต่ก็ยังคงแสดง ‘ความเชื่อมั่นส่วนตัว’ ต่อจัสติน ซันอยู่ต่อไป ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่าง **ภาคการเมือง** กับ **อุตสาหกรรมคริปโต** ยังคงเป็นประเด็นที่ผู้คนจับตามองอย่างใกล้ชิด