มาเลเซียเปิดตัว ‘ศูนย์นวัตกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล’ อย่างเป็นทางการ เพื่อผลักดันอุตสาหกรรมฟินเทคและสินทรัพย์ดิจิทัลภายใต้กลไกรูปแบบแซนด์บ็อกซ์ เปิดโอกาสให้บริษัทในอุตสาหกรรมสามารถทดลองเทคโนโลยีใหม่ๆ ภายใต้การกำกับดูแลโดยตรงจากธนาคารกลาง
แผนการดังกล่าวได้รับการประกาศโดยนายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม(Anwar Ibrahim) ในงานสัมมนา Sasana Symposium 2025 โดยเขาระบุว่าโครงการนี้คือ “จุดเริ่มต้นของยุคใหม่แห่งเศรษฐกิจดิจิทัลของมาเลเซีย” และยืนยันวิสัยทัศน์ที่จะปรับโครงสร้างพื้นฐาน นโยบาย และบุคลากรของประเทศสู่การเป็นผู้นำด้านดิจิทัลอย่างเป็นระบบ
ศูนย์นวัตกรรมดังกล่าวจะเปิดให้มีการทดสอบโครงการในหลากหลายกรณี เช่น ‘ระบบการชำระเงินที่ตั้งโปรแกรมได้’, ‘สเตเบิลคอยน์ที่อิงกับริงกิต’, และ ‘การเงินในห่วงโซ่อุปทาน’ ทั้งนี้จะอยู่ภายใต้การควบคุมโดยตรงจากธนาคารกลาง เพื่อประเมินความเป็นไปได้ในการนำเทคโนโลยีเหล่านี้เข้าสู่ระบบการเงินอย่างเป็นทางการในอนาคต
การก่อตั้งศูนย์นวัตกรรมครั้งนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ระยะยาวที่มาเลเซียต้องการพาตัวเองขึ้นเป็นศูนย์กลางฟินเทคของภูมิภาคอาเซียน โดยอับดุล ราชิด กาฟูร์(Abdul Rasheed Ghaffour) ผู้ว่าการธนาคารกลางมาเลเซีย กล่าวในงานเปิดตัวว่า “การจะรักษาขีดความสามารถในการแข่งขันในโลกการเงินที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จำเป็นต้องมีการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานอย่างจริงจัง” เขายังเน้นย้ำถึงแผนการปรับปรุงระบบชำระเงินเรนทัส(Rentas), การเชื่อมโยงการชำระเงินข้ามพรมแดน และการศึกษาเทคโนโลยีโทเคนไรซ์ ซึ่งถือเป็นแกนหลักในการสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจระยะยาว
จากสภาพแวดล้อมทางกฎหมายที่ไม่ชัดเจนในอดีต ซึ่งนำไปสู่ปัญหาต่างๆ เช่น การขุดคริปโตแบบผิดกฎหมาย มาเลเซียหวังว่า ‘ศูนย์นวัตกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล’ นี้จะเป็นจุดเปลี่ยน ให้สามารถทดลองเทคโนโลยีใหม่อย่างถูกต้องตามกฎหมาย และเปิดทางสู่การสร้างแนวทางกำกับดูแลที่ชัดเจนในอนาคต *คำสำคัญ* อย่าง ‘ฟินเทค’, ‘สินทรัพย์ดิจิทัล’, และ ‘บล็อกเชน’ จึงกลายเป็นองค์ประกอบสำคัญในความพยายามผลักดันประเทศสู่การเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมของภูมิภาคนี้
*ความคิดเห็น*: หากแนวทางนี้ประสบความสำเร็จ มาเลเซียอาจแซงหน้าประเทศเพื่อนบ้านบางแห่งในด้านความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีการเงินและคริปโตอย่างรวดเร็วภายในไม่กี่ปีข้างหน้า
ความคิดเห็น 0