ยูโรโพล(Europol) ประกาศปิดเซิร์ฟเวอร์หลักและโครงสร้างพื้นฐานของเว็บไซต์ตลาดมืดชื่อดัง ‘อาร์คีไทป์ มาร์เก็ต(Archetype Market)’ ซึ่งเปิดดำเนินการมานานกว่า 5 ปี โดยการปฏิบัติการครั้งนี้มีหน่วยงานจาก 6 ประเทศ รวมถึงสเปน เข้าร่วมภายใต้การนำของเนเธอร์แลนด์ พร้อมทั้งจับกุมชายชาวเยอรมันผู้ต้องสงสัยว่าเป็นผู้ดูแลระบบของตลาดดังกล่าวได้ที่สเปน
นอกจากนี้ยังมี ‘ผู้ไกล่เกลี่ยหลัก’ ของไซต์และผู้ขายรายใหญ่ 6 รายจากเยอรมนีและสวีเดนที่ถูกจับกุมพร้อมกัน โดยอาร์คีไทป์ มาร์เก็ตถูกตรวจสอบว่าใช้ ‘โมเนโร(XMR)’ ซึ่งเป็นคริปโตที่เน้นความเป็นส่วนตัว ในการทำธุรกรรมซื้อขายสินค้าผิดกฎหมาย การจับกุมครั้งนี้เกิดจากการสืบสวนข้อมูลทางการเงินและโครงสร้างการทำงานของตลาดมืดที่ดำเนินมาหลายปี
อย่างไรก็ตาม TRM แล็บส์(TRM Labs) บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลบล็อกเชน เปิดเผยในวันเดียวกันว่าการปิดเว็บไซต์ตลาดมืดแม้จะเป็น ‘ความสำเร็จของหน่วยงานการสอบสวน’ แต่ ‘โครงสร้างของดาร์กเว็บ (Dark Web)’ กลับมีความสามารถในการปรับตัวอย่างยืดหยุ่น “ผู้จำหน่ายสินค้าเถื่อนจำนวนมากหันไปใช้แพลตฟอร์มการส่งข้อความอย่าง ‘Telegram’ และ ‘Signal’ เพื่อสื่อสารและทำธุรกรรมอย่างลับๆ” TRM แล็บส์ กล่าวเพิ่มเติม
TRM แล็บส์ยังระบุว่าแม้เวทีการซื้อขายจะเปลี่ยนไป แต่ ‘ลักษณะของดาร์กเว็บ’ คือ ‘การดำเนินต่ออย่างไม่สิ้นสุด’ โดยเฉพาะเมื่อมีการใช้เหรียญดิจิทัลที่เน้นความเป็นส่วนตัวอย่าง ‘โมเนโร’ สิ่งนี้ทำให้การติดตามเส้นทางเงินและการสืบสวนเป็นเรื่องยาก ทั้งยังเพิ่ม ‘อุปสรรคทางเทคนิค’ ให้กับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายอีกด้วย
แม้การปิดอาร์คีไทป์ มาร์เก็ตจะนับว่าเป็น ‘ความคืบหน้า’ อย่างมากของเจ้าหน้าที่ แต่ผู้เชี่ยวชาญประเมินว่ายังห่างไกลจากการ ‘กำจัดตลาดมืดอย่างสิ้นเชิง’ เนื่องจากโครงสร้างแบบกระจายอำนาจและเครื่องมือใหม่ที่ตลาดเหล่านี้ใช้ในการฟื้นตัวและย้ายแพลตฟอร์มอยู่ตลอด
ทั้งนี้ ทรัมป์เคยมีท่าทีที่ ‘แข็งกร้าว’ ต่อสกุลเงินดิจิทัลที่ให้ความเป็นส่วนตัวสูง โดยให้ความสำคัญกับการกำกับดูแลและข้อบังคับในภาคนี้ ทำให้อนาคตของนโยบายการควบคุมคริปโตที่มี ‘ความสามารถในการปกปิดตัวตน’ กลายเป็นประเด็นที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด
ความคิดเห็น 0