ท่ามกลางกระแสคาดหวังต่อความผ่อนคลายด้านกฎระเบียบในสหรัฐ มีการยื่นคำขอจดทะเบียนกองทุนรวมอีทีเอฟ (ETF) ที่อ้างอิง ‘อัลต์คอยน์’ อย่างน้อย 31 รายการต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ(SEC) ภายในช่วงครึ่งแรกของปี 2025 เท่านั้น โดยก่อนหน้านี้ SEC ได้อนุมัติ ETF ทั้งในรูปแบบฟิวเจอร์สและแบบสปอตที่อิงกับบิตคอยน์(BTC) และอีเธอเรียม(ETH) แล้ว แต่ผลิตภัณฑ์ที่อ้างอิงจากอัลต์คอยน์อื่น ๆ มักถูกปฏิเสธมาโดยตลอด อย่างไรก็ตาม หลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐปี 2024 บรรยากาศการลงทุนในตลาดคริปโตเริ่มฟื้นตัว เนื่องจากนักลงทุนเริ่มมองเห็นความเป็นไปได้ของ ‘การเปิดทาง’ ทางกฎหมายมากขึ้น
หนึ่งในบริษัทที่ยื่นขอ ETF ครั้งนี้คือ แวนเอ็ก(VanEck) ผู้เล่นรายใหญ่ในอุตสาหกรรม ETF โดยยื่นขอสำหรับกองทุนที่อิงกับไบแนนซ์คอยน์(BNB) และอวาแลนซ์(AVAX) ขณะเดียวกัน วิสดอมทรี(WisdomTree) และแฟรงคลินเทมเพิลตัน(Franklin Templeton) ก็กำลังรอการอนุมัติสำหรับ ETF ที่อ้างอิงริปเปิล(XRP)
ที่น่าสนใจคือ มีความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับ ETF ที่อิงกับมีมคอยน์ด้วย โดยกองทุนร่วมของ REX และออสเปรย์(REX-Osprey) ได้ยื่นขอจดทะเบียน ETF ที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับโทเคนที่ *ประธานาธิบดีทรัมป์* เคยกล่าวถึง ซึ่งสร้างความสนใจในหมู่นักลงทุนไม่น้อย
ผู้เชี่ยวชาญด้าน ETF และคริปโตเชื่อว่า จากคำขอต่าง ๆ ที่ส่งเข้าไปครั้งนี้อย่างน้อย 10 รายการ น่าจะสามารถผ่านการอนุมัติจาก SEC ได้ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวกำลังจุดประกายกระแสคาดการณ์ถึง ‘ฤดูร้อนของอัลต์คอยน์ (Altcoin Summer)’ ซึ่งอาจนำไปสู่การขยายตัวของเงินทุนในตลาดคริปโตครั้งใหม่ ความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นกำลังกลายเป็นแรงผลักดันให้วงจรการลงทุนกลับมาอีกครั้งในวงกว้าง เพิ่มความคึกคักให้กับตลาดคริปโตโดยรวม
ความคิดเห็น 0