Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

จิม ชาโนสจวกแรง! ตั้งคำถามโมเดลธุรกิจแบบถือบิตคอยน์(BTC) ของสเตรทิจี

จิม ชาโนส(Jim Chanos) นักลงทุนสายขายชอร์ตชื่อดังจากวอลล์สตรีท ตั้งคำถามเชิงวิพากษ์ต่อกลยุทธ์ของบริษัทจดทะเบียนที่ถือ *บิตคอยน์(BTC)* แทนเงินสด โดยสงสัยว่าโครงสร้างธุรกิจที่จัดตั้งขึ้นเพียงเพื่อซื้อบิตคอยน์นั้นสร้างมูลค่าอย่างแท้จริง หรือเป็นเพียงการสร้างภาพลวงตาที่อิงกับ ‘ค่าพรีเมียม’ ที่มีอยู่แล้วในตลาด

เป้าหมายหลักที่ชาโนสวิจารณ์คือบริษัท *สเตรทิจี(Strategy)* ซึ่งถือบิตคอยน์จำนวนมหาศาล เขาชี้ว่าการที่หุ้นของบริษัทได้รับพรีเมียมจากมูลค่าสุทธิตลาดเพียงเพราะนำเงินไปซื้อบิตคอยน์ แสดงถึงการแยกขาดจากมูลค่าที่แท้จริงของกิจการ ชาโนสมองว่านี่คือความเสี่ยงเพราะบริษัทไม่ได้สร้างรายได้จากบิตคอยน์เท่าใดนัก แต่เพียงแค่ ‘ถือ’ ซึ่งอาจนำไปสู่ราคาหุ้นที่พุ่งเกินจริง

ขณะที่ *เจฟ วอลตัน(Jeff Walton)* ผู้สนับสนุนสเตรทิจี ตอบโต้ว่า บิตคอยน์เป็นเหมือน ‘หลักทรัพย์ค้ำประกัน’ ที่ช่วยให้บริษัทสามารถระดมทุนด้วยต้นทุนต่ำได้ เขาอธิบายว่า “นี่คือโมเดลที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง และได้ผลเกินคาด” พร้อมย้ำว่ามูลค่าตลาดของสเตรทิจีปัจจุบันนั้นใหญ่กว่าเฮดจ์ฟันด์ระดับตำนานของชาโนสอย่าง *คีนนิคอส แอสโซซิเอตส์(Kynikos Associates)* ถึงกว่า 8 เท่า

ไม่นานมานี้ สเตรทิจีประกาศแผนระดมทุนผ่านการออกหุ้นมูลค่ากว่า 2.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.9 ล้านล้านวอน) เพื่อซื้อบิตคอยน์เพิ่มเติม ตอกย้ำแนวทางการเติบโตเชิงรุกของบริษัท

อย่างไรก็ดี ชาโนสเชื่อว่าโมเดลนี้จะไม่ยั่งยืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมี *บิตคอยน์ ETF* และผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่มีประสิทธิภาพกว่าปรากฏขึ้นในตลาด ซึ่งความแตกต่างด้านโครงสร้างอาจทำให้ราคาพรีเมียมของบริษัทอย่างสเตรทิจีค่อยๆ สลายไป เขาจึงเข้าถือ ‘สถานะขายชอร์ต’ กับหุ้นดังกล่าว พร้อมกับการซื้อบิตคอยน์บางส่วนเพื่อบริหารความเสี่ยง

ด้าน *ไมเคิล เซเลอร์(Michael Saylor)* ผู้สนับสนุนบิตคอยน์อย่างแข็งขัน เตือนว่าท่าทีของชาโนสอาจนำไปสู่ความสูญเสียอย่างรุนแรง ขณะที่ *ไซมอน เกโรวิช(Simon Gerovich)* ซีอีโอของ *เมตาแพลนเน็ต(Metaplanet)* บริษัทสัญชาติญี่ปุ่นที่ใช้โมเดลคล้ายคลึงกับสเตรทิจี ก็ท้าทายให้ชาโนสลองขายชอร์ตหุ้นบริษัทของเขาดูบ้าง

ชาโนสเคยขาดทุนอย่างหนักจากการขายชอร์ตหุ้น *เทสลา(TSLA)* ในปี 2020 และเคยออกปากว่าการลงทุนครั้งนั้น “เจ็บปวดมาก” จึงไม่แปลกที่การเคลื่อนไหวครั้งใหม่นี้จะถูกจับตามอง

กรณีนี้สะท้อนความแตกต่างของมุมมองในตลาดต่อต้นแบบทางธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วยคริปโตและถือ *บิตคอยน์(BTC)* เป็นสินทรัพย์หลัก ซึ่งอาจกลายเป็นปัจจัยสำคัญต่อการตัดสินใจลงทุนในบริษัทที่ดำเนินธุรกิจแบบเดียวกันในอนาคต

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1