การเลือกแพลตฟอร์มซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลที่ครบเครื่องยังคงเป็นความท้าทายที่ไม่ง่ายนักสำหรับนักเทรด โดยเฉพาะเมื่อต้องเลือกแพลตฟอร์มที่สามารถรองรับ ‘ฟีเจอร์ฟิวเจอร์สขั้นสูง’ และ ‘การสนับสนุนเหรียญทางเลือก’ ได้อย่างลงตัว ล่าสุด แพลตฟอร์มที่กำลังได้รับความสนใจจากนักเทรดจำนวนมาก ได้แก่ *ทูบิต(Toobit)* และ *บิตยูนิกซ์(Bitunix)* ซึ่งทั้งสองได้กลายเป็นจุดเปรียบเทียบสำคัญในหมู่นักลงทุน
หากดูในแง่ของ ‘คู่เทรด’ ทูบิตมีความได้เปรียบเล็กน้อย โดยให้บริการคู่เทรดฟิวเจอร์สมากถึง 422 คู่ มากกว่าบิตยูนิกซ์ที่มีประมาณ 400 คู่ ซึ่งเป็นข้อดีสำหรับผู้ใช้งานที่ชอบเหรียญนอกกลุ่ม Top 20 ทำให้มีตัวเลือกที่หลากหลายมากขึ้น
เรื่องของ ‘เลเวอเรจ’ ทูบิตก็ทำคะแนนนำเช่นกัน ด้วยเลเวอเรจสูงสุดถึง 200 เท่า สำหรับบิตคอยน์(BTC) และ XAUT (ทองคำดิจิทัล) ซึ่งสูงกว่าของบิตยูนิกซ์ที่จำกัดไว้ที่ 125 เท่า แม้ว่าความเสี่ยงจะเพิ่มขึ้นตาม แต่สำหรับนักลงทุนที่ใช้กลยุทธ์เชิงลึก การมีออปชันนี้ถือเป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญ
ที่โดดเด่นอีกอย่างคือระบบที่เป็นมิตรกับมือใหม่ ทูบิตมาพร้อมกับ ‘โหมดเดโม’ ที่จำลองสถานการณ์ซื้อขายจริง ทำให้ผู้ใช้งานสามารถฝึกฝนก่อนเทรดจริงได้อย่างปลอดภัย ขณะที่บิตยูนิกซ์ยังขาดฟีเจอร์นี้อยู่ ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคสำหรับผู้เริ่มต้น
ในเรื่องของสัญญาอนุพันธ์ที่อ้างอิงกับ *สเตเบิลคอยน์* ทั้งสองแพลตฟอร์มมีแนวทางต่างกัน โดยทูบิตใช้อัตราคงที่กับ USDC ซึ่งมีความสอดคล้องกับข้อกำหนดทางกฎหมายในยุโรป ขณะที่บิตยูนิกซ์ใช้ USDT ซึ่งยังมีข้อถกเถียงอยู่ในบริบทด้านกฎระเบียบ แม้จะมีสภาพคล่องสูงก็ตาม
ในด้านการซื้อขายอัตโนมัติ ทูบิตก็นำหน้าอีกเช่นกัน ด้วยฟีเจอร์ ‘Grid Bot’ และ ‘DCA Bot’ ที่ติดตั้งมาพร้อมแพลตฟอร์ม ช่วยให้ผู้ใช้งานวางกลยุทธ์แบบซ้ำ ๆ ได้ง่าย ขณะที่บิตยูนิกซ์ยังไม่มีระบบอัตโนมัติเหล่านี้ให้บริการ
ความสามารถในการบริหารความเสี่ยงก็เป็นอีกจุดที่ทูบิตได้เปรียบ โดยมีการแสดง *จุดคุ้มทุนแบบเรียลไทม์* ที่รวมค่าธรรมเนียมเข้าไป ทำให้นักเทรดจัดการตำแหน่งการเทรดได้ชัดเจนยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมี โหมด ‘Split Position’ ที่ไม่รวมตำแหน่งเข้าด้วยกัน ซึ่งเหมาะกับการใช้กลยุทธ์ระยะสั้นและระยะยาวควบคู่กัน
คุณสมบัติต้อนรับผู้ใช้งานใหม่ก็เป็นอีกข้อที่ทูบิตโดดเด่นกว่า โดยให้โบนัสสูงถึง 15,000 USDT (ประมาณ 2,085,000 บาท) ซึ่งมากกว่าของบิตยูนิกซ์ที่ให้เพียง 8,000 USDT (ประมาณ 1,112,000 บาท) และสามารถรับได้ง่าย ๆ ผ่านการยืนยันบัญชี ฝากเงินครั้งแรก และเริ่มเทรด
จุดที่สำคัญอีกอย่างคือระบบ ‘Stop-Loss และ Take-Profit แบบรับประกัน’ ที่ทูบิตมีให้ โดยจะดำเนินการที่ราคาที่กำหนดไว้อย่างแม่นยำ ป้องกันความเสียหายจากการเคลื่อนไหวรุนแรงของตลาด ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่บิตยูนิกซ์ยังไม่มี
ในส่วนของ ‘ราคาอ้างอิง’ ทูบิตใช้ราคาจาก 6 ตลาดใหญ่ทั่วโลก ทำให้การประเมินราคามีความแม่นยำและเป็นธรรมมากกว่าเมื่อเทียบกับบิตยูนิกซ์ที่ใช้เพียง 3 ตลาด เป็นผลให้การถูกปิดสถานะก่อนเวลาอันควรจากความเคลื่อนไหวของราคาถูกลดลง
เมื่อมองในมุมของ *สภาพคล่อง* ทูบิตครองอันดับเหนือจากการรายงานของ CoinMarketCap ด้วยปริมาณเทรดและระดับความลึกของตลาดที่มากกว่าสองเท่า ซึ่งช่วยลดค่าความต่างราคา (Spread) และความล่าช้าในคำสั่ง (Slippage) ได้เป็นอย่างดี
สรุปแล้ว แม้ทั้ง *ทูบิต* และ *บิตยูนิกซ์* จะเป็นแพลตฟอร์มที่มีประสิทธิภาพและเหมาะสำหรับการซื้อขายแบบฟิวเจอร์ส แต่ทูบิตมีความได้เปรียบอย่างชัดเจนในเรื่องของ ‘ฟีเจอร์การใช้งาน’ ที่หลากหลาย, ‘ระบบช่วยเทรด’ ที่ครบถ้วน และ ‘โครงสร้างความปลอดภัย’ ที่ตอบโจทย์ทุกระดับผู้ใช้งาน โดยเฉพาะสำหรับนักเทรดเชิงกลยุทธ์หรือผู้ที่มีประสบการณ์สูง ทูบิตถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจยิ่งกว่า
ความคิดเห็น 0