สถานการณ์ความผันผวนที่อาจเกิดขึ้นในตลาดการเงินทั่วโลก มักถูกมองว่าเป็น ‘แบล็กสวอน’ แต่ในทางตรงกันข้าม ปัจจุบันตลาดมีมคอยน์เริ่มหันมาให้ความสนใจกับ ‘ไวท์สวอน’ หรือเหตุการณ์ที่แม้สามารถคาดการณ์ได้ แต่มีผลกระทบรุนแรง ซึ่งผู้เชี่ยวชาญบางรายระบุว่า โทเคนในระบบนิเวศของชิบะอินุ(SHIB) อาจเป็น ‘ปราการ’ ที่มีทั้งความทนทานและโอกาสในการฟื้นตัว
เมื่อเร็ว ๆ นี้ ชิบาเรี่ยม อัปเดตส์(Shibarium Updates) แหล่งข้อมูลเกี่ยวกับมีมคอยน์ โพสต์ผ่าน X (เดิมชื่อทวิตเตอร์) ว่า “เหตุการณ์ไวท์สวอนจะต้องมาถึงในที่สุด” พร้อมแนะนำชิบะอินุ(SHIB), โบน(BONE), ลีช(LEASH), ทรีต(TREAT) และเชบ(SHEB) ในฐานะสินทรัพย์ที่ควรถือติดพอร์ตเพื่อรับมือกับวิกฤตข้างหน้า โดยระบุว่า “เฉพาะกลุ่มชุมชนที่มีโทเคนที่เหมาะสมและคงอยู่กับโปรเจกต์ในความเงียบสงบ จะมีโอกาสรอดและทำกำไรได้”
คำว่า ‘ไวท์สวอน’ ใช้อธิบายเหตุการณ์ที่สามารถคาดการณ์ได้ล่วงหน้าแต่สร้างแรงสั่นสะเทือนได้รุนแรง ซึ่งต่างจาก ‘แบล็กสวอน’ ที่เกิดขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัว และการเคลื่อนไหวของราคาชิบะอินุ(SHIB) ในอดีตก็เคยตอบสนองต่อเหตุการณ์เหล่านี้อย่างรุนแรง เช่น ในเดือนพฤษภาคม 2022 วิกฤตการล่มสลายของโปรเจกต์เทอรา(ลูน่า)และเหรียญเสถียรแบบอัลกอริทึม UST ส่งผลให้ SHIB ร่วงลงอย่างหนัก ขณะที่ในเดือนพฤศจิกายนปีเดียวกัน การขาดสภาพคล่องของเอฟทีเอ็กซ์ก็นำไปสู่อีกหนึ่งเหตุการณ์ใหญ่ที่ฉุดราคาร่วงลงอีกครั้ง
แม้จะมีประวัติความผันผวนสูง แต่แนวโน้มของ SHIB ในสายตาของนักลงทุนบางกลุ่มยังดูสดใส ผู้ใช้งานบน X รายหนึ่งวิเคราะห์ว่า “SHIB อยู่ใกล้กับระดับราคาต่ำสุด และกำลังมุ่งหน้าเข้าสู่แนวรับที่สำคัญ” พร้อมเสริมว่า ราคาอาจเคลื่อนไหวในกรอบราคาช่วงหนึ่งก่อนเข้าสู่ ‘ระยะฟื้นตัว’ โดยแนะนำนักลงทุนให้ “มั่นใจและมองเป็นโอกาสในการถือหรือสะสมเพิ่มเติม”
ขณะที่กลุ่มนักวิเคราะห์จากคริปโตอีไลต์(CryptoELITES) คาดการณ์ว่า ในอนาคตโทเคน SHIB อาจเติบโตได้ถึง ‘17 เท่า’ โดยมีโอกาสแตะจุดสูงสุดก่อนหน้าที่ราว 0.00023 ดอลลาร์
ด้วยเหตุนี้ โทเคนอย่างชิบะอินุ(SHIB) และกลุ่มสินทรัพย์ในระบบนิเวศอาจแสดงศักยภาพในฐานะทรัพย์สินป้องกันความเสี่ยงเมื่อตลาดเผชิญเหตุการณ์ ‘ไวท์สวอน’ อย่างไรก็ตาม ‘คำเตือนสำคัญ’ คือนักลงทุนควรศึกษา ‘มูลค่าที่แท้จริง’ และศักยภาพการเติบโตของโปรเจกต์แต่ละตัวก่อนตัดสินใจลงทุน
ความคิดเห็น 0