รัฐบาลนอร์เวย์กำลังเดินหน้าเพิ่มความเข้มงวดในการควบคุม ‘อุตสาหกรรมขุดบิตคอยน์(BTC)’ ส่งผลให้เกิดความตึงเครียดในตลาดอีกครั้ง โดยมาตรการใหม่นี้ได้รับการผลักดันโดยพรรคแรงงาน และมีเป้าหมายเพื่อควบคุมการใช้พลังงานอย่างเข้มงวด รัฐบาลระบุว่าจะมีการระงับการจัดตั้งศูนย์ข้อมูลเพื่อการขุดเหรียญใหม่ทั้งหมดอย่างชั่วคราวภายในสิ้นปีนี้
ด้วยภูมิประเทศที่มีอากาศหนาวและพลังงานหมุนเวียนจำนวนมาก นอร์เวย์ได้กลายเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการขุดบิตคอยน์ระดับโลก โดยในปี 2022 ข้อมูลจากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์เผยว่านอร์เวย์มีสัดส่วนแฮชเรตทั่วโลกอยู่ที่ประมาณ 1% บริษัทขุดรายใหญ่อย่างบิตฟิวรี(Bitfury) และบิตเดียร์(Bitdeer) ต่างก็มีศูนย์การขุดตั้งอยู่ในประเทศนี้
อย่างไรก็ดี รัฐบาลนอร์เวย์ตั้งคำถามว่าอุตสาหกรรมนี้ก่อประโยชน์ทางเศรษฐกิจเพียงใดในระดับท้องถิ่น ขณะที่กลับใช้พลังงานในปริมาณมหาศาล เทอร์เย อัสลันด์(Terje Aasland) รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของนอร์เวย์ กล่าวอย่างชัดเจนว่า “เราจะจัดสรรพลังงานให้กับบริษัทที่ก่อให้เกิดประโยชน์กับสังคมก่อน” ซึ่งเป็นสัญญาณของการไม่เห็นด้วยกับการขุดบิตคอยน์โดยตรง
ก่อนหน้านี้เมื่อปีที่ผ่านมา นอร์เวย์ได้ผ่านกฎหมายที่บังคับให้ผู้ให้บริการศูนย์ข้อมูลต้องรายงานรายละเอียดทางธุรกิจ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วก็มีเป้าหมายเพื่อควบคุมการดำเนินกิจกรรมขุดเหรียญ
ไม่เพียงแต่นอร์เวย์เท่านั้นที่เพิ่มมาตรการกำกับดูแลการขุดบิตคอยน์ ทั่วโลกก็เริ่มมีท่าทีในลักษณะเดียวกันเช่นกัน เช่น ไอซ์แลนด์ที่บริษัทไฟฟ้ารัฐบาล Landsvirkjun ระงับการจ่ายไฟให้กับผู้ขุดรายใหม่ในปี 2021 เพราะระดับน้ำในเขื่อนต่ำเกินไป รัฐมานิโทบาของแคนาดาและรัฐบาลคูเวตก็ได้ประกาศชะลอหรือปราบปรามกิจกรรมขุดเช่นกัน ขณะที่บางประเทศอย่างจีน แอลจีเรีย และโคโซโว ถึงขั้นสั่ง ‘ห้ามขุดบิตคอยน์’ อย่างเด็ดขาด
มาตรการล่าสุดของนอร์เวย์อาจเป็นจุดเริ่มต้นของคลื่น ‘คุมเข้มเหมืองขุด’ ทั่วทั้งภูมิภาคยุโรป ท่ามกลางการถกเถียงระหว่างกลุ่มอุตสาหกรรมที่ชี้ให้เห็นถึงความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของพลังงานหมุนเวียน และภาครัฐที่มองว่าการขุดบิตคอยน์เป็นการสิ้นเปลืองพลังงานโดยไร้ผลตอบแทนทางสังคม การถกเถียงเหล่านี้ยังคงดำเนินต่อไปโดยไม่มีทีท่าจะยุติในเร็วๆ นี้
ความคิดเห็น 0