คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ (SEC) อาจมีแนวโน้ม ‘เอื้ออำนวย’ ต่อกองทุนรวมอีทีเอฟคริปโตเคอร์เรนซี สร้างความคาดหวังในตลาดว่าการอนุมัติกองทุนลักษณะดังกล่าวในสหรัฐฯ กำลังจะกลายเป็นความจริง โดยมีการประเมินจากผู้เชี่ยวชาญว่าความเป็นไปได้ในการอนุมัติครั้งนี้ “แทบจะแน่นอน” เปิดทางให้กฎเกณฑ์ด้านการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลภายในประเทศผ่อนคลายมากขึ้น
เมื่อวันที่ 24 นักวิเคราะห์อีทีเอฟของ Bloomberg อย่างเอริก บัลชูแนส(Eric Balchunas) และเจมส์ เซย์เฟิร์ต(James Seyffart) ต่างแสดงทัศนะผ่านโซเชียลมีเดีย โดยระบุว่าความเป็นไปได้ที่กองทุนอีทีเอฟคริปโตจะได้รับอนุมัตินั้นมีสูงกว่า 90% ในหลายกรณี โดยเซย์เฟิร์ตชี้ว่า การสื่อสารระหว่าง SEC และผู้มีส่วนร่วมในตลาดกำลังเป็นไปในทิศทางที่ "เป็นบวกมาก" ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่สร้างความมั่นใจในผลลัพธ์ของการอนุมัติอีทีเอฟ
รายงานยังระบุเพิ่มเติมว่า SEC มีแนวโน้มจะจัดประเภทสกุลเงินดิจิทัลหลักบางสกุล เช่น ไลต์คอยน์(LTC), โซลานา(SOL), ริปเปิล(XRP) และดอจคอยน์(DOGE) ว่าเป็น ‘สินค้าโภคภัณฑ์ (commodity)’ แทนที่จะระบุว่าเป็น ‘หลักทรัพย์’ ซึ่งหากการนิยามนี้เกิดขึ้นจริง สินทรัพย์เหล่านั้นจะอยู่นอกขอบเขตของการควบคุมโดยตรงของ SEC ทำให้กระบวนการพิจารณาอีทีเอฟสามารถเดินหน้าต่อได้ง่ายขึ้น
กระแสนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกันกับที่ประธานาธิบดีทรัมป์ ส่งสัญญาณสนับสนุนแนวทางกำกับดูแลคริปโตที่ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในบริบทของการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่กำลังใกล้เข้ามา ซึ่งพรรครีพับลิกันเริ่มแสดงความพร้อมในการผลักดันนโยบายคริปโตอย่างจริงจัง
การเปลี่ยนแปลงในตลาดอีทีเอฟครั้งนี้ อาจเป็นสัญญาณของการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมสกุลเงินดิจิทัลมากขึ้น หลังจากเปิดตัวกองทุนที่อิงตามบิตคอยน์(BTC) และอีเธอเรียม(ETH) ไปก่อนหน้า ท่ามกลางความคาดหวังของนักลงทุนทั่วตลาด สายตาทั้งหมดกำลังจับจ้องไปยังการประกาศอย่างเป็นทางการจาก SEC ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใด
*ความคิดเห็น: หากการอนุมัติจริงเกิดขึ้นเร็ว อาจเป็นจุดเร่งสำคัญที่ผลักดันการยอมรับคริปโตในระบบการเงินหลักยิ่งขึ้นกว่าเดิม*
ความคิดเห็น 0