CZ แห่งไบแนนซ์เตือนภัย! ความน่าเชื่อถือเว็บไซต์คริปโตสั่นคลอน หลัง CoinTelegraph–CoinMarketCap ถูกแฮ็ก

จางเผิง จ้าว(CZ) ผู้ร่วมก่อตั้งไบแนนซ์ ได้ออกมาเตือนถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรมคริปโต หลังเกิดเหตุการณ์แฮ็กข้อมูลอย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา โดยเฉพาะการโจมตีเว็บไซต์ข้อมูลชื่อดังอย่างคอยน์เทเลกราฟ(CoinTelegraph) และคอยน์มาร์เก็ตแคป(CoinMarketCap) ซึ่ง CZ เตือนผู้ใช้ให้ระมัดระวังเป็นพิเศษเมื่อใช้งานแพลตฟอร์มผ่าน ‘WalletConnect’ พร้อมเสริมว่า แม้แต่เว็บที่คุ้นเคยก็อาจตกเป็นเป้าของแฮ็กเกอร์ได้

เหตุการณ์ถูกเปิดโปงเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน โดยบัญชี 'realScamSniffer' เผยว่าเว็บไซต์ของคอยน์เทเลกราฟถูกฝังโค้ดโฆษณาที่เป็นอันตรายในหน้าแรกของเว็บไซต์ โดย CZ เชื่อมโยงเหตุการณ์นี้กับการแฮ็กของคอยน์มาร์เก็ตแคปที่เกิดก่อนหน้านี้เพียง 2 วัน ซึ่งยิ่งสร้างความกังวล เนื่องจากคอยน์มาร์เก็ตแคปเป็นหนึ่งในบริการที่ไบแนนซ์ถือครองอยู่ โดยมีผู้เสียหายอย่างน้อย 39 ราย และมูลค่าความเสียหายรวมประมาณ 13,360 ดอลลาร์ หรือราว 1.8 ล้านบาท CZ ย้ำว่า “คอยน์มาร์เก็ตแคปจะชดเชยความเสียหายทั้งหมดให้แก่ผู้เสียหายแน่นอน”

เขายังชี้ว่า ปัญหาที่ *ใหญ่กว่าการแฮ็ก* คือ ‘ความน่าเชื่อถือของแพลตฟอร์มดิจิทัล’ ที่ถูกสั่นคลอน ก่อนหน้านี้ เป้าหมายหลักของแฮ็กเกอร์คือกระเป๋าสินทรัพย์ดิจิทัลและแพลตฟอร์มซื้อขาย แต่ปัจจุบัน สื่อและแหล่งข้อมูลอุตสาหกรรมคริปโตก็ตกเป็นเหยื่อเช่นกัน ซึ่งสะท้อนถึงปัญหา ‘ความเชื่อมั่นของระบบนิเวศ’ ที่ถูกสั่นคลอนไปทั่ว

ในแง่มุมของตลาด CZ ยังได้แสดงความเห็นผ่าน X (เดิมชื่อทวิตเตอร์) โดยกล่าวว่า “ตราบใดที่ยังไม่ทำจุดสูงสุดใหม่ (ATH) ทุกอย่างก็ถือเป็นขาลง” เขามองว่าในตลาดรอบนี้ จะมีแค่ *บางเหรียญที่แข็งแกร่งเท่านั้น* ที่สามารถกลับไปทำราคาสูงสุดได้ใหม่ โดยยกตัวอย่างบิตคอยน์(BTC) ที่ในเดือนพฤษภาคมปีที่ผ่านมา เคยแตะระดับสูงสุดถึง 111,970 ดอลลาร์ หรือกว่า 1.5 แสนบาท

นอกจากนี้ เขายังแสดงความสนใจต่อโครงการ ‘กรอก(Grok)’ ของอีลอน มัสก์ ซึ่งเป็นโครงการปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ตั้งเป้า ‘นิยามความรู้ของมนุษย์ใหม่’ โดยจะเข้าไปแก้ไขจุดบกพร่องของข้อมูลและเรียนรู้ซ้ำจากข้อเท็จจริง CZ ให้ความเห็นว่า “อยากติดตามว่าการทดลองนี้จะพัฒนาไปในทิศทางใด” โดยไม่ได้แสดงจุดยืนชัดเจนในเรื่องนี้

แม้ว่าเขาจะไม่ได้มีตำแหน่ง CEO ของไบแนนซ์อีกต่อไป แต่ท่าทีล่าสุดของเขายังคงสะท้อนบทบาทของเขาในฐานะหนึ่งใน ‘คีย์แมน’ ที่ทรงอิทธิพลที่สุดในวงการคริปโต ตั้งแต่การตอบสนองต่อเหตุการณ์แฮ็ก วิเคราะห์ทิศทางตลาด ไปจนถึงความสนใจในเทคโนโลยีใหม่ ความเห็นของเขาไม่ได้หยุดอยู่แค่คำเตือนทั่วไป แต่ได้เน้นย้ำถึงความเสี่ยงพื้นฐานในอุตสาหกรรมที่กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ความเสียหายที่เกิดขึ้นในครั้งนี้จึงอาจเป็นสัญญาณว่าถึงเวลาที่ ‘ความน่าเชื่อถือ’ ของเว็บไซต์คริปโตจะต้องถูกประเมินใหม่อีกครั้ง