โคอินเบส(Coinbase) หนึ่งในแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตระดับโลก เผยบทบาทสำคัญในการร่วมสืบสวนกับหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ จนสามารถยึดคริปโตมูลค่า *2.25 ร้อยล้านดอลลาร์* หรือประมาณ *3,128 พันล้านวอน* จากขบวนการหลอกลวงขนาดใหญ่ได้สำเร็จ
เมื่อวันที่ 18 (เวลาท้องถิ่น) กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯประกาศว่า หน่วยสืบราชการลับของกรมความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ (Secret Service) ได้ทำการยึดเหรียญดิจิทัลที่ได้จากอาชญากรรมรูปแบบ ‘Pig Butchering’ หรือการล่อลวงให้เหยื่อลงทุนก่อนชิงหนี โดยทรัพย์สินคริปโตที่ถูกยึดมีมูลค่าถึง *2.25 ร้อยล้านดอลลาร์* นับเป็นกรณีการยึดสินทรัพย์คริปโตที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ตามการเปิดเผยของ ฌอน แบรดสตรีท(Shawn Bradstreet) หัวหน้าสำนักงานสืบสวนแห่งซานฟรานซิสโก
การสืบสวนเริ่มต้นอย่างจริงจังตั้งแต่ต้นปี 2024 โดยโคอินเบสระบุผ่านบล็อกของบริษัทว่า ได้ร่วมมือกับหน่วยสืบราชการลับของสหรัฐฯ ในปฏิบัติการระหว่างภาครัฐและเอกชน โดยได้จัดตั้งทีมสืบสวนเร่งด่วน หรือ ‘Sprint’ ร่วมกับหลายแพลตฟอร์ม สืบหาทิศทางการเคลื่อนไหวของคริปโตและระบุตัวเหยื่อได้สำเร็จ
โคอินเบสเน้นย้ำว่าในช่วงเวลาเพียง 4 วัน ระหว่างวันที่ 26 ถึง 29 กุมภาพันธ์ปีที่ผ่านมา บริษัทสามารถติดตามธุรกรรมมูลค่าสูงและระบุบัญชีที่เกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงได้หลายร้อยบัญชี โดยมีลูกค้ามากกว่า 130 รายที่ตกเป็นเหยื่อในการหลอกลวงดังกล่าว ซึ่งบริษัทได้ส่งข้อมูลทั้งหมดให้แก่หน่วยสืบราชการลับ เพื่อเร่งกระบวนการสืบสวนต่อไป
เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่าองค์กรอาชญากรรมที่หลอกลวงในโลกคริปโตมีความซับซ้อนและอันตรายเพียงใด *ความคิดเห็น:* ในขณะเดียวกันก็แสดงให้เห็นว่า ศักยภาพในการวิเคราะห์ข้อมูลของเอกชนอย่างโคอินเบส มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐต่อสู้กับอาชญากรรมในโลกสินทรัพย์ดิจิทัล
โคอินเบสระบุว่าจะเดินหน้าร่วมมือกับภาครัฐอย่างใกล้ชิด และลงทุนในเทคโนโลยีพร้อมมาตรการทางกฎหมายเพิ่มเติมเพื่อปกป้องผู้ใช้งานแพลตฟอร์มในอนาคต
ความคิดเห็น 0