แองเคอเรจหยุดสนับสนุน 3 สเตเบิลคอยน์ จุดชนวนข้อกังขาเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน

แองเคอเรจ ดิจิทัล (Anchorage Digital) บริษัทที่ให้บริการดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลในสหรัฐฯ ตกเป็นประเด็นวิพากษ์หลังประกาศจะหยุดสนับสนุน ‘สามสเตเบิลคอยน์’ อย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยระบุว่าเป็นไปตามมาตรฐานจาก ‘หน่วยงานกำกับดูแล’ และผลประเมินความเสี่ยงภายใน อย่างไรก็ตาม มีเสียงวิจารณ์จากอุตสาหกรรมว่า การตัดสินใจครั้งนี้อาจมี ‘ผลประโยชน์ทับซ้อน’ และเอื้อประโยชน์ต่อบางฝ่ายเป็นพิเศษ

นิค แวน เอ็ค(Nick van Eck) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้งอะโกรา(Agora) ออกมาแสดงความไม่พอใจผ่านแพลตฟอร์ม X โดยชี้ว่า การตัดสินใจของแองเคอเรจขาดพื้นฐานจาก ‘ข้อเท็จจริงที่ตรวจสอบได้’ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า แองเคอเรจเลือกหยุดสนับสนุน USDC, อะโกรา ดอลลาร์(AUSD) และยูเซอร์ออล ดอลลาร์(USD0) โดยไม่ได้เปิดเผยความสัมพันธ์กับบริษัทแพกซอส(Paxos) ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ออกสเตเบิลคอยน์รายใหญ่ที่อาจได้รับประโยชน์จากการตัดสินใจนี้ ‘ความคิดเห็น’ การเคลื่อนไหวดังกล่าวจึงถูกมองว่าอาจเป็นการเอื้อประโยชน์ต่อพันธมิตรของบริษัทอย่างไม่เหมาะสม

ทั้งนี้ แองเคอเรจถือเป็นหนึ่งในบริษัทคริปโตรายแรกที่ได้รับใบอนุญาตดำเนินกิจการในฐานะธนาคารภายใต้ข้อกำกับของสหรัฐฯ ซึ่งที่ผ่านมาให้ความสำคัญกับหลัก ‘การปฏิบัติตามกฎระเบียบ’ มาโดยตลอด ล่าสุด บริษัทได้เปิดเผยว่ามีการนำ “เมทริกซ์ประเมินความปลอดภัยของสเตเบิลคอยน์” มาใช้เพื่อคัดกรองการสนับสนุน โดยเน้นพิจารณาความสอดคล้องกับแนวทางกำกับดูแลของผู้ออกเหรียญแต่ละราย

แถลงการณ์ของแองเคอเรจระบุว่า จะเริ่มทยอยถอดการสนับสนุนสำหรับเหรียญ USDC, AUSD และ USD0 ตามลำดับ ซึ่งจุดนี้เองที่หลายฝ่ายเริ่มตั้งคำถามถึง ‘ความโปร่งใส’ และ ‘จริยธรรม’ ในการจัดการนโยบาย พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า แนวทางใหม่นี้อาจส่งผลกระทบต่อ ‘ความเชื่อมั่น’ ในระบบนิเวศสเตเบิลคอยน์โดยรวม เนื่องจากความไว้วางใจถือเป็นปัจจัยหลักสำหรับผู้ใช้งานในตลาดคริปโต

‘ความคิดเห็น’ เหตุการณ์นี้อาจกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการถกเถียงว่า หน่วยงานที่เข้ามากำกับดูแลในคริปโตควรมีบทบาทอย่างไร และบริษัทเอกชนมีเส้นแบ่งมากแค่ไหนระหว่างการปฏิบัติตามกฎกับการแสวงหาผลประโยชน์จากกฎเหล่านั้น