InfoFi พลิกเกมคริปโต! Jayplay Labs ชี้โอเพนเลดเจอร์ผงาดด้วยกลยุทธ์รางวัลมัลติแพลตฟอร์ม

เจย์เพลย์ แล็บส์(Jayplay Labs) เปิดเผยรายงานล่าสุดที่ชี้ให้เห็นถึงวิวัฒนาการของแนวคิด ‘InfoFi’ และการแข่งขันในกลุ่ม ‘Mindshare’ ที่กำลังกลายเป็นแกนกลางใหม่ของระบบนิเวศคริปโต โดยชี้ว่า มูลค่าของข้อมูลและการแย่งชิงความสนใจกลายเป็นตัวชี้วัดใหม่ที่ใช้ประเมินความยั่งยืนและอิทธิพลของโปรเจกต์ต่างๆ โซเชียลแพลตฟอร์มที่เชื่อมโยงข้อมูลบนบล็อกเชนและ AI กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว นำโดยตัวอย่างสำคัญอย่าง ไคโต(Kaito) และ คุกกี้ดอตฟัน(Cookie) ในบทบาทผู้นำ InfoFi

คำว่า *InfoFi* มาจากการผสมผสานระหว่าง 'Information' และ 'Finance' ซึ่งเปรียบเสมือนการอัปเกรดจากโมเดล SocialFi ดั้งเดิมไปสู่แนวทางการกำกับดูแลแบบ Web3 หลายแพลตฟอร์มเริ่มออกแบบระบบเศรษฐกิจที่ให้รางวัลผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลออนเชน และกิจกรรมของผู้ใช้ ขณะที่ *AI* ทำหน้าที่ประมวลผลคุณภาพคอนเทนต์และระดับการมีส่วนร่วมแบบเรียลไทม์ ทำให้ข้อมูลกลายเป็นสินทรัพย์ใหม่ที่สร้างรายได้ในยุคนี้

*ไคโต* ถือเป็นกรณีศึกษาที่น่าจับตามอง โดยนำเทคโนโลยี AI มาสร้าง ‘กราฟความรู้คริปโต’ ตามเวลาจริงผ่านข้อมูลจาก Twitter(X), ฟอรัมด้านการกำกับดูแล และบันทึกบล็อกเชน โดยให้รางวัลผู้เขียนเนื้อหาด้วย YAP พอยต์ และมีโปรแกรมโบนัส *Kaito EARN* ควบคู่ ผ่านการระดมทุนจากกลุ่มผู้ลงทุนชื่อดัง อาทิ เซควอยา แคปิตอล และ ดราก้อนฟลาย รวมกว่า 1,200 ล้านดอลลาร์

ในขณะเดียวกัน *คุกกี้* เน้นวิธีการที่ต่างออกไป โดยให้ความสำคัญกับ ‘ความภักดีที่มีต่อโปรเจกต์’ มากกว่าปริมาณเนื้อหา ด้วยระบบ SNAPS ที่ประเมินการมีส่วนร่วมเชิงคุณภาพและใช้ ‘อัตราการครอบครองความสนใจ’ เป็นตัวแปลงผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ มีผู้สนับสนุนหลักอย่าง แอนิโมกา แบรนด์ส(Animoca Brands) และ สกายวิชั่น(SkyVision)

ความโดดเด่นอีกด้านหนึ่งคือกรณีของ *โอเพนเลดเจอร์(OpenLedger)* ซึ่งเข้าร่วมเป็น ‘พันธมิตรด้านรางวัล’ ทั้งกับไคโตและคุกกี้ ทำให้ผู้ใช้งานสามารถรับรางวัลจากสองแพลตฟอร์มผ่านคอนเทนต์ชิ้นเดียวกัน โดยด้านไคโตเน้นความเร็วของข้อมูล ด้านคุกกี้เน้นความภักดีระยะยาว โดยมีการจัดสรรรางวัลกว่า 2 ล้านโทเคน $OPEN และ 350,000 ดอลลาร์ในคุกกี้ สำหรับการแจกจ่ายแก่ผู้ใช้ สร้างระบบรางวัลแบบ ‘มัลติแพลตฟอร์ม’ ที่ครบวงจรซึ่งผู้ใช้สามารถรับโทเคนได้พร้อมกันถึงสามประเภทคือ $OPEN, $YAP และ $COOKIE

ในตลาดไทย *โอเพนเลดเจอร์* ก็เร่งขยายกิจกรรมเพื่อสร้างความได้เปรียบเชิงกลยุทธ์ โดยแจกโทเคนบางส่วนจากไคโตให้กับผู้ใช้งานชาวไทยเป็นพิเศษ พร้อมจัดการแข่งขันสร้างคอนเทนต์ในประเทศที่สามารถรวบรวมผลงานได้กว่า 5,000 รายการภายในระยะเวลาอันสั้น เจย์เพลย์ แล็บส์ ตั้งข้อสังเกตว่า "ประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในตลาดที่มีการแอร์ดรอปและกิจกรรมสร้างสภาพคล่องคึกคักที่สุดในโลก และเหมาะอย่างยิ่งสำหรับโปรเจกต์ที่มองหากลยุทธ์ทางออก(Exit Strategy) ที่แข็งแกร่ง"

จุดเด่นอย่างการให้รางวัลเดียวกันจากคอนเทนต์เพียงชิ้นเดียว การให้พื้นที่โลดแล่นบนลีดเดอร์บอร์ด และการกระจายทราฟฟิกเพิ่มเติมกลายเป็นพลังสำคัญในการดึงดูดผู้ใช้ *โอเพนเลดเจอร์* ยังทำกิจกรรมร่วมกับชุมชนทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ เช่น AMA และการจัดมิทอัป เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมในชีวิตจริงอีกด้วย

รายงานจากเจย์เพลย์ แล็บส์ชี้ว่า แนวคิด InfoFi ได้กลายเป็นฟันเฟืองหลักของ Web3 ที่ยึดโยงองค์ประกอบต่างๆ ทั้งคอนเทนต์, การมีส่วนร่วม, ข้อมูล และระบบรางวัล AI เข้าด้วยกันในวัฏจักรเดียว การที่ข้อมูลถูกเปลี่ยนเป็นสินทรัพย์ภายใต้การควบคุมแบบกระจายศูนย์ถือเป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ และโมเดลอย่างโอเพนเลดเจอร์สามารถเป็น ‘กรณีตัวอย่าง’ ในการต่อยอดสู่ระบบเศรษฐกิจดิจิทัลแบบมีส่วนร่วมในระดับโลก