ริปเปิลยุติคดี SEC เปิดทาง XRP Spot ETF คาดดึงเงินทุนไหลเข้า 85 ล้านดอลลาร์

หลังจากการต่อสู้ทางกฎหมายกับคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC) มายาวนาน ล่าสุด ริปเปิลได้ยุติข้อพิพาทดังกล่าว พร้อมสลายอุปสรรคด้านกฎหมายที่เคยขวางทางโครงการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับริปเปิลเอ็กซ์อาร์พี(XRP) ซึ่งหนึ่งในประเด็นสำคัญที่ได้รับความสนใจคือ *โอกาสในการเปิดตัวกองทุนอีทีเอฟแบบสปอตของเอ็กซ์อาร์พี (XRP Spot ETF)* ภายในเดือนกรกฎาคมนี้

ตามรายงานจากสื่อท้องถิ่น เมื่อวันที 24 ริปเปิลได้ถอนคำอุทธรณ์ในคดีที่ถูก SEC กล่าวหาเรื่องการเสนอขาย XRP แก่สถาบัน โดยได้ตกลงยอมจ่ายค่าปรับราว 50 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1,820 ล้านบาท) ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขที่เคยเสนอไว้ก่อนหน้าที่ 125 ล้านดอลลาร์ การยอมความนี้ส่งผลให้ข้อจำกัดในการขาย XRP ให้กับนักลงทุนสถาบันถูกยกเลิกอย่างเป็นทางการ ท่ามกลาง *ความเห็น* ของหลายฝ่ายว่า SEC อาจยอมรับโดยปริยายว่า XRP มีความชัดเจนด้านกฎระเบียบแล้วในระดับหนึ่ง

แพลตฟอร์มวิเคราะห์ด้วยปัญญาประดิษฐ์ AIXBT คาดว่า การเคลื่อนไหวครั้งนี้เปิดทางให้การยื่นขอ ETF ของ XRP มีแนวโน้มเกิดขึ้นภายในเดือนกรกฎาคม ขณะที่ เนต เกราซี(Nate Geraci) ประธาน ETF Store ระบุว่า สถานการณ์ตอนนี้เอื้อต่อการที่ผู้ลงทุนรายใหญ่ เช่น แบล็คร็อก จะเริ่มสนใจ XRP มากขึ้น

หากเกิดการเปิดตัว XRP Spot ETF จริง คาดว่าจะมีเงินทุนไหลเข้าช่วงแรกประมาณ 85 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 3,100 ล้านบาท) โดย เจมส์ เซย์ฟาร์ต(James Seyffart) นักวิเคราะห์จาก Bloomberg มองว่า ตัวเลขดังกล่าวเป็นไปได้ และจะถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี แม้ปัจจุบันมูลค่าตลาดของ XRP ยังอยู่ที่ราว ๆ 7.5% ของบิตคอยน์(BTC) ก็ตาม ทั้งนี้ โปรเจ็กต์ ETF บิตคอยน์ที่ผ่านมาก็เคยมียอดการซื้อขายทะลุ 14,000 ล้านดอลลาร์ และเงินลงทุนกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ ในสัปดาห์แรก

ตลาดหุ้นคริปโดยรวมตอบรับข่าวอย่างเป็นบวก โดยหลังจาก แบรด การ์ลิงเฮาส์(Brad Garlinghouse) ซีอีโอของริปเปิล ประกาศว่า “การต่อสู้ทางกฎหมายสิ้นสุดลงอย่างสมบูรณ์” ราคาของ XRP ก็ปรับตัวขึ้นทันทีประมาณ 5% ขณะเดียวกัน AIXBT ก็ประเมินว่า XRP น่าจะเป็น *คริปโตเคอร์เรนซีที่มีสถานะทางกฎหมายชัดเจนที่สุดในตลาดขณะนี้*

อย่างไรก็ตาม บางฝ่ายเตือนว่าในระยะสั้นยังมี *ความเสี่ยงจากความผันผวน* โดยเฉพาะหากนักลงทุนแห่เปิดสถานะ Long มากเกินไป จนอาจเกิดแรงเทขายทำกำไร อย่างไรก็ดี ในระยะยาว โอกาสในการเข้าสู่ระบบการเงินแบบดั้งเดิม รวมถึงการใช้งานเครือข่าย XRP Ledger ในภาคธุรกิจ อาจเป็นปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญ

ปัจจุบันความสนใจจับจ้องไปที่การยื่นเสนอ ETF ของ XRP ในเดือนกรกฎาคม ว่าบริษัทหลักทรัพย์ยักษ์ใหญ่ เช่น แบล็คร็อก, เกรย์สเกล, แวนเอค, บิตไวส์ และ แคนนารี แคปิตอล จะเดินเกมอย่างไร หาก XRP สามารถดึงดูดนักลงทุนสถาบันได้อย่างเต็มที่ผ่าน ETF ก็อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญต่อโครงสร้างและอนาคตของทั้งเครือข่าย XRP และตลาดคริปโตในภาพรวม