ในยุคที่ตลาดคริปโตสามารถตรวจสอบได้แบบ *เรียลไทม์* ความสามารถในการเทรดของแต่ละบุคคลจึงกลายเป็นสิ่งที่หลบซ่อนไม่ได้ และแทนที่จะเป็นผู้ได้เปรียบ หนึ่งในแฮกเกอร์กลับกลายเป็นผู้ที่ประสบ *ความสูญเสียมหาศาลนับล้านดอลลาร์* จากการตัดสินใจลงทุนผิดพลาด
ตามการวิเคราะห์ของบริษัทบล็อกเชน *ลุคออนเชน(Lookonchain)* ระบุว่า กระเป๋าเงินที่เกี่ยวข้องเคยเชื่อมโยงกับเหตุการณ์การแฮกในอดีต และล่าสุดได้พลาดการเทรดอีเธอเรียม(ETH)ครั้งใหญ่ โดยย้อนหลังไปประมาณ 3 เดือน กระเป๋านี้ได้โอนรับอีเธอเรียมจำนวน 12,282 เหรียญ ซึ่งมีมูลค่าในขณะนั้นราว *23.72 ล้านดอลลาร์* หรือประมาณ *330.6 ล้านบาท* ก่อนจะขายออกในราคาประมาณ 1,932 ดอลลาร์ต่อเหรียญเพื่อทำกำไร
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 24 (เวลาท้องถิ่น) กระเป๋าเงินดังกล่าวตัดสินใจซื้อคืนอีเธอเรียมจำนวน 4,958 เหรียญในราคาสูงถึง 2,495 ดอลลาร์ต่อเหรียญ เป็นมูลค่ารวมกว่า *12.37 ล้านดอลลาร์* หรือประมาณ *1.72 พันล้านบาท* ด้วยคาดการณ์ว่าราคาจะยังคงปรับตัวขึ้น แต่ปรากฏว่าราคากลับลดลง ทำให้แฮกเกอร์รายนี้ขาดทุนทันที *ราว 6.9 ล้านดอลลาร์* หรือประมาณ *957 ล้านบาท*
*ความคิดเห็น*: กรณีนี้ไม่ใช่เพียงแค่เหตุการณ์แปลกของแฮกเกอร์ที่ขาดทุน แต่สะท้อนว่าการลงทุนคริปโต โดยเฉพาะเมื่อใช้เลเวอเรจสูงถึง 40-50 เท่า ตามรายงานของ *CryptoPotato* สามารถนำไปสู่การขาดทุนระดับร้ายแรง ในช่วงที่ผ่านมา นักลงทุนจำนวนมากสูญเสียเงินนับล้านดอลลาร์จากการเปิดสถานะที่เสี่ยงเกินตัว และไม่สามารถรับกับความผันผวนของตลาดได้
บทสรุปจากเหตุการณ์นี้คือ *ตลาดคริปโตไร้ความปรานี* ไม่ว่าจะเป็นแฮกเกอร์หรือนักลงทุนธรรมดา หากเลือกทำการเทรดด้วยความคาดหวังที่ไม่มีเหตุผล และไม่บริหารความเสี่ยงอย่างเหมาะสม ย่อมพบกับบทเรียนราคาแพงในที่สุด ซึ่งผู้ใช้งานในชุมชนคริปโตหลายคนกล่าวว่า "บล็อกเชนไม่เคยโกหก" และกรณีนี้ก็เป็นอีกตัวอย่างที่พิสูจน์คำกล่าวนั้นได้อย่างชัดเจน
ความคิดเห็น 0