ไบนานซ์ครอง 87% ตลาดฟิวเจอร์สบิตคอยน์(BTC) ผู้เชี่ยวชาญชี้เสี่ยงกระจุกตัวสูง

ไบนานซ์ ยักษ์ใหญ่แห่งวงการซื้อขายคริปโต กำลังครองตลาดฟิวเจอร์สบิตคอยน์(BTC) เกือบเบ็ดเสร็จ โดยตามข้อมูลจากแพลตฟอร์มวิเคราะห์ออนเชนอย่างคริปโตควอนท์(CryptoQuant) ระบุว่า ไบนานซ์ครองสัดส่วนคำสั่งซื้อแบบเทเกอร์ถึง *87%* ของตลาดฟิวเจอร์สบิตคอยน์ทั่วโลก

‘คำสั่งเทเกอร์’ หมายถึงคำสั่งที่ถูกจับคู่ทันทีตามราคาที่มีอยู่ในตลาด ถือเป็นหนึ่งในดัชนีที่สะท้อนความต้องการแบบเรียลไทม์และการกระจุกตัวของสภาพคล่องในตลาด ข้อมูลนี้ช่วยให้เห็นว่า นักลงทุนแห่เข้าสู่ตลาดผ่านแพลตฟอร์มใด และบ่งชี้ถึงความได้เปรียบทางการแข่งขันอย่างชัดเจน

เมื่อเทียบกับคู่แข่งในตลาดอย่าง OKX, เดริบิท(Deribit), บิทเม็กซ์(BitMEX) และบายบิท(Bybit) สัดส่วนรวมของคำสั่งซื้อเทเกอร์ทั้งหมดจากแพลตฟอร์มเหล่านี้รวมกันกลับมีเพียงประมาณ 10% เท่านั้น เทียบไม่ติดกับส่วนแบ่งของไบนานซ์ นักวิเคราะห์จากคริปโตควอนท์อย่าง เจ.เอ. มาร์ทัน(J.A. Maartun) ให้ *ความคิดเห็น* ว่า “ไบนานซ์กลายเป็นแพลตฟอร์มหลักสำหรับนักเทรดที่ต้องการเข้าตลาดแบบเรียลไทม์ โดยชี้ว่าจุดแข็งอยู่ที่ *สภาพคล่อง ความเร็วในการจับคู่คำสั่ง และการไหลเข้าของเงินทุน*”

ความแข็งแกร่งของไบนานซ์ไม่ได้เริ่มต้นเพียงแค่ตอนนี้ หลังเหตุการณ์ FTX ล่มในปี 2022 ไบนานซ์ภายใต้การนำของ *ชางเผิง เจา(Changpeng Zhao)* ได้ฉวยโอกาสก้าวขึ้นมายึดบทบาทผู้นำในตลาดฟิวเจอร์สอย่างเต็มรูปแบบ

อิทธิพลของไบนานซ์ยังขยายไปสู่พื้นที่อื่นเช่นกัน ข้อมูลจาก BTC.com เผยว่า *98%* ของบิตคอยน์ที่เพิ่งถูกขุดจะถูกโอนไปยังไบนานซ์ทันที บ่งบอกว่าไบนานซ์คือ ‘คลังพักเหรียญแรก’ สำหรับบิตคอยน์ใหม่แทบทั้งหมด

นอกจากนี้ ไบนานซ์ยังเป็นเบอร์หนึ่งในตลาดโอนย้ายเทเธอร์(USDT) บนเครือข่าย TRC-20 โดยทำธุรกรรมมากกว่า *65%* ของปริมาณธุรกรรมทั้งหมดบนเครือข่าย Tron คิดเป็นมูลค่าตั้งแต่ *2 พันล้านถึง 3 พันล้านดอลลาร์ต่อวัน* หรือประมาณ *2.7 แสนล้าน ถึง 4.1 แสนล้านบาทต่อวัน*

แม้จะเป็นผู้นำที่แทบไร้คู่แข่ง แต่ผู้เชี่ยวชาญก็เตือนถึง *ความเสี่ยงจากการกระจุกตัว* มากเกินไป หากเกิดเหตุเกี่ยวกับกฎระเบียบหรือปัญหาทางเทคนิค ไบนานซ์อาจส่งผลต่อทั้งตลาดอย่างรุนแรง ทั้งในแง่ราคาฟิวเจอร์สที่ผิดเพี้ยน สภาพคล่องของตลาดสปอตที่ต่ำลง และการชะลอตัวของการหมุนเวียนในตลาดสเตเบิลคอยน์

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันไบนานซ์ยังคงรักษา ‘อำนาจควบคุมตลาด’ ไว้ได้อย่างแข็งแกร่ง ผ่านทั้ง *สภาพคล่องที่เหนือชั้น และระบบจับคู่ออเดอร์ที่รวดเร็ว* จึงต้องติดตามต่อไปว่า ปัจจัยด้านกฎหมายและโครงสร้างตลาดในอนาคตจะเปลี่ยนภูมิทัศน์การแข่งขันนี้อย่างไร