ข่าว 
ข้อมูลเหรียญ 
แนะนำสื่อ 
เดวิด ชวาร์ตซ์(David Schwartz) ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่เทคโนโลยี(CTO)ของริปเปิล(XRP) ได้ออกมาเปิดเผยถึงที่มาของชื่อ ‘ริปเปิล’ ที่เคยถูกพูดถึงอย่างต่อเนื่องในหมู่ผู้ใช้งาน โดยระบุว่าชื่อนี้มีความเกี่ยวข้องบางส่วนกับเพลงชื่อดังในยุค 70 ซึ่งช่วยไขข้อสงสัยที่คาราคาซังมานาน และเปิดมุมมองใหม่เกี่ยวกับกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ของโครงการในระยะแรกเริ่ม
เหตุการณ์เริ่มต้นจากการที่ผู้ใช้งานคนหนึ่งในแพลตฟอร์ม X (ชื่อเดิมคือทวิตเตอร์) ตั้งคำถามว่า “ชื่อริปเปิล(Ripple) มีที่มาจากเพลง ‘Ripple’ ของวง Grateful Dead หรือไม่” ซึ่งชวาร์ตซ์ตอบว่า “ค่อนข้างใช่” พร้อมอธิบายเพิ่มเติมว่า หากตอนนั้นไม่สามารถซื้อโดเมน ripple.com ได้ ก็อาจจะไม่เลือกชื่อนี้มาใช้เลยก็เป็นได้ โดยกล่าวว่า เป็นเพราะแฟนเพลงของ Grateful Dead รายหนึ่งชื่นชอบเพลงนี้จนจดทะเบียนโดเมนเอาไว้ และสุดท้ายทีมงานริปเปิลก็สามารถซื้อมาใช้งานเป็นชื่อบริษัทได้
จากคำตอบดังกล่าว แสดงให้เห็นว่าชื่อ ‘ริปเปิล’ ไม่ได้มาจากแรงบันดาลใจเพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็น ‘กลยุทธ์’ ที่คำนึงถึงปัจจัยภายนอกอย่างโดเมนเนม และความเป็นไปได้ทางการตลาด ถือเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ที่แยบยลตั้งแต่ระยะเริ่มต้นของโครงการ
ริปเปิลเกิดขึ้นครั้งแรกในปี 2011 โดยเดวิด ชวาร์ตซ์, เจด แมคคาเลบ(Jed McCaleb) และอาร์เธอร์ บริตโต(Arthur Britto) ซึ่งร่วมกันพัฒนา XRP เลดเจอร์(XRPL) เพื่อแก้ปัญหาข้อจำกัดของบิตคอยน์(BTC) ในเวลานั้นชื่อ Ripple ถูกใช้เป็นชื่อโค้ดเนมของโปรเจกต์อยู่แล้ว พอถึงเดือนมิถุนายน 2012 XRP เลดเจอร์ก็เปิดตัวอย่างเป็นทางการ และไม่กี่เดือนถัดมาในเดือนกันยายน ก็เกิดบริษัทขึ้นภายใต้ชื่อ ‘นิวคอยน์(NewCoin)’ ต่อมาจึงเปลี่ยนชื่อเป็น ‘โอเพนคอยน์(OpenCoin)’
ในปี 2013 โอเพนคอยน์รีแบรนด์ใหม่เป็น ‘ริปเปิลแล็บส์(Ripple Labs)’ พร้อมแบ่งชื่อระหว่างโทเคนกับบริษัทให้ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยใช้ ‘XRP’ เป็นชื่อของคริปโต ส่วน ‘ริปเปิลแล็บส์’ เป็นชื่อของบริษัท หนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ต้องแยกชื่อก็เพราะลูกค้ามักสับสนระหว่างชื่อโครงการกับชื่อบริษัท นำไปสู่การปรับแบรนด์ให้ชัดเจนขึ้น จนท้ายที่สุดก็ย่อชื่อเหลือเพียง ‘ริปเปิล’ ที่ปัจจุบันเป็นชื่อเรียกที่รู้จักกันทั่วโลก
ขณะนี้ ริปเปิลอยู่ในระหว่างดำเนินการขอใบอนุญาตจากธนาคารระดับประเทศในสหรัฐอเมริกา เพื่อลุยเข้าสู่โลกของการเงินแบบดั้งเดิมอย่างเต็มตัว ตามรอยผู้ออกสเตเบิลคอยน์อย่างเซอร์เคิล(Circle) ที่ดำเนินกระบวนการคล้ายกันมาก่อนแล้ว ความเคลื่อนไหวนี้แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ริปเปิลไม่ได้เพียงแค่สร้างผลิตภัณฑ์ แต่ยังวางตำแหน่งแบรนด์ให้แข็งแรงตั้งแต่ชื่อบริษัท ตอกย้ำความสำคัญของการวางแผนอย่างรอบด้านในวงการบล็อกเชน ความคิดเห็น: กรณีของริปเปิลจึงอาจเป็นต้นแบบที่ดีสำหรับสตาร์ตอัปคริปโตที่ยังอยู่ในขั้นตอนสร้างเอกลักษณ์ให้แบรนด์ของตนเอง
ความคิดเห็น 0