สินเชื่อจำนองด้วยคริปโตมาแรง! ใช้บิตคอยน์(BTC)–อีเธอเรียม(ETH) กู้ซื้อบ้านโดยไม่ต้องขายเหรียญ

‘สินเชื่อจำนองด้วยคริปโต’ ทางเลือกใหม่ที่เชื่อมโลกคริปโตกับอสังหาฯ

การใช้ *สินทรัพย์ดิจิทัล* อย่าง *บิตคอยน์(BTC)* และ *อีเธอเรียม(ETH)* เป็นหลักประกันเพื่อกู้ *สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย* หรือที่เรียกว่า ‘สินเชื่อจำนองด้วยคริปโต (Crypto-backed mortgage)’ กำลังกลายเป็นกระแสใหม่ในระบบการเงินอสังหาริมทรัพย์ โดยผู้ถือครองคริปโตสามารถเข้าถึงเงินทุนในการซื้อบ้านโดยไม่จำเป็นต้องขายสินทรัพย์ดิจิทัลของตนเอง ส่งผลให้ตัวเลือกนี้ได้รับความสนใจมากขึ้นในกลุ่มนักลงทุนคริปโต

โมเดลของสินเชื่อประเภทนี้อาศัยการนำคริปโตมาเป็นหลักประกันแทนเงินสดหรือเงินฝากแบบเดิม ผู้กู้จะฝากคริปโตไว้ในระบบดูแลทรัพย์สิน (Custody) ที่กำหนดโดยผู้ให้กู้ ซึ่งจะปล่อยเงินสกุลปกติให้อยู่ในกรอบของมูลค่าหลักประกัน โดยส่วนมาก *อัตราหลักประกัน (Loan-to-Value)* จะอยู่ที่ประมาณ 150% ทั้งนี้มีความเสี่ยงในการถูก *เรียกมาร์จิ้น (Margin Call)* หากมูลค่าคริปโตลดลงมากเกินไป ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะการบังคับขายทรัพย์อย่างฉับพลัน

เทคโนโลยี *บล็อกเชน* ยังเข้ามามีบทบาทสำคัญในการทำให้กระบวนการนี้มีความ *โปร่งใสและอัตโนมัติ* ผ่านระบบ *สมาร์ตคอนแทรกต์* ตั้งแต่การอนุมัติสินเชื่อ การส่งเงิน ไปจนถึงกระบวนการชำระคืน ช่วยลดขั้นตอนที่ซับซ้อนของระบบการเงินดั้งเดิม พร้อมเพิ่มความน่าเชื่อถือด้วยการบันทึกข้อมูลที่ไม่สามารถแก้ไขได้

การเชื่อมโยงระหว่างคริปโตและอสังหาริมทรัพย์ที่ดูเป็นสองโลกต่างกันนี้ กลับกลายเป็น *สะพานเชื่อมระหว่างการเงินกระจายศูนย์ (DeFi)* กับระบบการเงินแบบดั้งเดิม ซึ่งผู้เชี่ยวชาญมองว่าเป็นแนวทางที่จะช่วยเพิ่มสภาพคล่องโดยไม่ต้องเสียโอกาสจากมูลค่าคริปโตในอนาคต เป็นประโยชน์ต่อการวางแผน *พอร์ตการลงทุนในระยะยาว*

แพลตฟอร์มที่ให้บริการสินเชื่อจำนองด้วยคริปโต เช่น Nexo, Ledn และ Salt Lending ต่างเริ่มออกผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้หลากหลาย Nexo รองรับกว่า 40 สกุลเงิน พร้อมจุดแข็งในเรื่องอนุมัติรวดเร็วและเงื่อนไขชำระคืนที่ยืดหยุ่น ด้าน Ledn มุ่งเน้นผลิตภัณฑ์ที่ใช้บิตคอยน์เป็นหลักประกันโดยเฉพาะ ขณะที่ Salt Lending มีข้อเสนอทั้งสินเชื่อทั่วไปและตัวเลือกเพื่อการซื้อบ้าน

อย่างไรก็ตาม กลุ่มผลิตภัณฑ์นี้ยังมี *ข้อจำกัดและความเสี่ยง* โดยเฉพาะในเรื่อง *ความผันผวนของคริปโต* ที่อาจทำให้มูลค่าหลักประกันลดลงตลอดเวลา รวมถึงประเด็น *ข้อกฎหมายและกฎระเบียบที่แตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ* ผู้กู้จำเป็นต้องตรวจสอบแหล่งที่มาทรัพย์สินและปฏิบัติตามมาตรการต่อต้านการฟอกเงิน (AML) อย่างถูกต้อง นอกจากนี้ อัตราดอกเบี้ย เงื่อนไขการคืนเงิน และข้อตกลงล่วงหน้าจำเป็นต้องพิจารณาให้รอบคอบ

หนึ่งใน ‘ข้อได้เปรียบสำคัญ’ ของสินเชื่อชนิดนี้คือ *ประเด็นทางภาษี* โดยเนื่องจากไม่มีการขายคริปโตเพื่อเปลี่ยนเป็นเงินสด ผู้ใช้จึงสามารถหลีกเลี่ยงภาษีกำไรจากการขาย (Capital Gain Tax) ได้ ซึ่งยิ่งน่าสนใจยิ่งขึ้นสำหรับประเทศที่มีอัตราภาษีสูง และ *ความคิดเห็น* บางส่วนยังมองว่าการถือคริปโตต่อไปอาจสร้างผลตอบแทนที่ดียิ่งขึ้นในระยะยาว

เมื่อจะเลือกใช้บริการจากแพลตฟอร์มใดผู้ลงทุนควรให้ความสำคัญกับ *ความปลอดภัย, การป้องกันสินทรัพย์, การบริการลูกค้า,* และ*การปฏิบัติตามกฎหมาย* เช่น การตรวจสอบความมั่นคงของคลังเก็บสินทรัพย์ในระบบ custody และแนวปฏิบัติเมื่อต้องมีการบังคับขาย ถือเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายจากเหตุไม่คาดฝัน ทั้งนี้ การตอบสนองจากฝ่ายให้บริการลูกค้า ก็ถือเป็นอีกปัจจัยที่อาจส่งผลระยะยาวต่อประสบการณ์ผู้ใช้

แม้บริการสินเชื่อจำนองด้วยคริปโตจะยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่สัญญาณจากผู้ลงทุนที่เริ่มเปลี่ยนจากการถือครองแบบนิ่ง มาเป็นการใช้งานคริปโตเพื่อสร้างความคล่องตัวด้านสินทรัพย์ กำลังสะท้อนให้เห็นถึง 'การเติบโตของสินทรัพย์ดิจิทัลในฐานะทางเลือกการเงินใหม่' หากมีการสนับสนุนในเชิงกฎหมายเพิ่มมากขึ้น บริการนี้อาจ *เป็นหนึ่งในตัวแปรสำคัญที่เปลี่ยนโฉมการลงทุนอสังหาริมทรัพย์* ในอนาคตอันใกล้