ตลาดคริปโตทั่วโลกกลับเข้าสู่ภาวะ ‘ขาลง’ อีกครั้ง โดยเมื่อวันที่ 29 มูลค่ารวมของตลาดคริปโตลดลงประมาณ 1.76% สู่ระดับ 3.88 ล้านล้านดอลลาร์ หรือราว 5,393 ล้านล้านวอน สร้างความกังวลต่อกลุ่มนักลงทุน แม้ *บิตคอยน์(BTC)* จะทรงตัวอยู่ใกล้ระดับสูงสุดในช่วงที่ผ่านมา แต่ *อัลท์คอยน์* ส่วนใหญ่เผชิญแรงเทขายหนักและมีราคาที่ปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็ว
ราคาของ *อีเธอเรียม(ETH)* ลดลงประมาณ 2.53% เหลือ 3,779.85 ดอลลาร์ หรือราว 5.25 ล้านบาทในช่วงเวลา 24 ชั่วโมง ด้าน *ริปเปิล(XRP)* แม้ราคาจะลดลง 4% ภายในวันเดียว แต่ยังคงสามารถรักษาการฟื้นตัวกว่า 10% ในระดับสัปดาห์ได้ ส่วน *โซลานา(SOL)* และ *ไบแนนซ์คอยน์(BNB)* ต่างลดลงมากกว่า 2.4% ขณะเดียวกัน *คาร์ดาโน(ADA)* ตกลงเหลือ 0.7878 ดอลลาร์ หรือราว 1,095 วอน ลดลง 6.17% ภายในวันเดียว และลดลงถึง 10.81% เมื่อพิจารณาแบบรายสัปดาห์
บรรดาเหรียญมีมก็ไม่สามารถต้านทานแนวโน้มนี้ได้เช่นกัน *โดจคอยน์(DOGE)* ร่วงลง 7.64% ขณะที่ *ซุย(SUI)* ดิ่งลงถึง 8.3% ตอกย้ำสภาพตลาดที่ชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง *ความคิดเห็น* ของผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ภาวะ "พักฐานหลังจากการฟื้นตัวก่อนหน้า", ความไม่แน่นอนของกฎระเบียบ และการเปลี่ยนแปลงในมุมมองของนักลงทุน ได้ร่วมกันเร่งให้เกิดสัญญาณ *ขาลงทั่วทั้งตลาด*
หนึ่งในปัจจัยสำคัญของการปรับฐานในครั้งนี้ คือการที่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์สหรัฐ(SEC) มีมติ *ชะลอการอนุมัติ ETF สำหรับอัลท์คอยน์แบบสปอต* ในขณะที่ *บิตคอยน์* และ *อีเธอเรียม* ได้รับการอนุมัติไปก่อนหน้านี้ แต่เหรียญอื่น ๆ ยังคงรอการพิจารณาจากหน่วยงานกำกับดูแล นักลงทุนที่คาดหวังการอนุมัติอาจเริ่มหมดความอดทน เนื่องจาก SEC ยังไม่ได้เปิดเผยกำหนดการที่ชัดเจน
แนวโน้มการขายของนักลงทุนรายย่อยจึงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเลือกที่จะ ‘ถือตัว’ มากกว่าการกระจายความเสี่ยงไปยังอัลท์คอยน์ ส่งผลให้ราคาลดลงเป็นลูกโซ่ อีกปัจจัยที่กระทบคือราคาของอัลท์คอยน์บางส่วนที่เคยพุ่งขึ้นสองถึงสามเท่าในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา อาจเริ่มสะสมแรงขายจากความเหนื่อยล้าในการเก็งกำไร
ในขณะนี้ *บิตคอยน์* ยังคงทรงตัวที่ระดับแนวต้านราว 120,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 16.68 ล้านบาท *ความคิดเห็น* จากนักเทรดจำนวนหนึ่งมองว่า *บิตคอยน์* กลายเป็น ‘สินทรัพย์ปลอดภัยเชิงเปรียบเทียบ’ ท่ามกลางตลาดที่ผันผวน จึงเกิดปรากฏการณ์ *ไหลกลับเข้าบิตคอยน์* แทนการถืออัลท์คอยน์เพื่อจัดการความเสี่ยง
นักวิเคราะห์เตือนว่า การไหลเวียนของเงินทุนในลักษณะนี้อาจดำเนินต่อไปอีกช่วงหนึ่ง จนกว่าทิศทางของบิตคอยน์จะมีความชัดเจนขึ้น และแนะนำให้นักลงทุนเข้าตลาดอัลท์คอยน์ด้วยความระมัดระวัง ในขณะเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญเน้นย้ำว่านักลงทุนควรโฟกัสไปที่การเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างระยะกลางถึงยาว รวมถึงการเคลื่อนไหวในเชิงนโยบายของภาครัฐ มากกว่าจะโฟกัสเพียงแค่ความผันผวนในระยะสั้น
ความคิดเห็น 0