คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ(SEC) เตรียมเปิดตัวโครงการนโยบายเฉพาะทางสำหรับคริปโตเคอร์เรนซี ภายใต้ชื่อ ‘โปรเจกต์คริปโต(Project Crypto)’ โดยมุ่งเน้นการจัดตั้งกรอบกำกับดูแลใหม่ที่ครอบคลุมระบบนิเวศการเงินบนบล็อกเชนทั้งหมด
เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม ที่ผ่านมา พอล แอตกินส์(Paul Atkins) ประธาน SEC ได้ประกาศแผนการดังกล่าวอย่างเป็นทางการระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ที่สถาบันนโยบายอเมริกามาก่อน(America First Policy Institute) พร้อมเปิดเผยว่าหน่วยงานจะนำข้อเสนอแนะจากกลุ่มทำงานด้านคริปโตเคอร์เรนซีภายใต้การบริหารของรัฐบาลไบเดนมาปรับใช้ภายใต้โครงการนี้โดยตรง
โครงการนี้มีเป้าหมาย ‘สร้างเกณฑ์ที่ชัดเจนเกี่ยวกับสถานะของคริปโตเคอร์เรนซีว่าจะเป็นหลักทรัพย์หรือไม่’ โดยแอตกินส์ระบุว่า “คริปโตส่วนใหญ่ไม่ใช่หลักทรัพย์” และเสนอแนวทางใหม่สำหรับการเปิดเผยข้อมูลและข้อยกเว้นความรับผิดในกรณี เช่น การขายล่วงหน้า(ICO), การแอร์ดรอป, และรางวัลจากเครือข่าย ซึ่งจะช่วยปรับโครงสร้างการกระจายโทเคนในระดับโลก และปูทางให้เกิดระบบการซื้อขายแบบออนเชนภายในสหรัฐ
นอกจากนั้น SEC ยังผลักดันแนวทางสำหรับการ ‘ขยายการใช้โทเคนในการเสนอหลักทรัพย์ในประเทศ’ โดยแอตกินส์กล่าวว่า ความต้องการในการโทเคนไนซ์หุ้นและพันธบัตรเพิ่มสูงขึ้น จึงควรผลักดันความร่วมมือกับผู้ออกสินทรัพย์เพื่อเสนอระยะเวลาการผ่อนปรนทางกฎหมาย ให้สามารถเข้าถึงนักลงทุนชาวอเมริกันได้ทั่วถึงมากขึ้น พร้อมมีแผนทบทวนข้อจำกัดในการจดทะเบียนซ้อนของแพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ เพื่อเร่งสร้างตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีโทเคนรองรับในประเทศ
สำหรับด้านผลกระทบต่อ ‘ตลาดทุนสหรัฐ’ แอตกินส์กล่าวว่าจะมีการแบ่งแยกระหว่างระบบตัวกลางแบบเดิม กับโปรโตคอลการเงินแบบกระจายศูนย์(DeFi) อย่างชัดเจน โดยเฉพาะการสนับสนุนสัญญาอัจฉริยะที่สามารถปฏิบัติตามกฎหมายได้ เช่น กรณี ‘พูลที่ผ่านการยืนยันตัวตน (Verified Pool)’, การตรวจสอบออนเชน, และมาตรฐาน ERC-3643 เพื่อสร้างความโปร่งใสและเชื่อถือได้ในการซื้อขายคริปโต
แอตกินส์ยังกล่าวเน้นว่า “การดูแลสินทรัพย์ด้วยตนเอง(self-custody) คือค่านิยมหลักของชาวอเมริกัน” พร้อมส่งสัญญาณผ่อนปรนข้อจำกัดที่เคยปิดกั้นโบรกเกอร์และผู้จัดการสินทรัพย์ไม่ให้ให้บริการรับฝากคริปโตโดยตรง ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงนโยบายด้านการกำกับดูแลการรับฝากสินทรัพย์ดิจิทัล
SEC ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาแผนจัดตั้ง ‘ศูนย์กลางการซื้อขายใหม่’ สำหรับสินทรัพย์ที่ครอบคลุมทั้งคริปโตแบบหลักทรัพย์และไม่ใช่หลักทรัพย์ ซึ่งอาจจะเสนอให้มีการใช้ข้อกำหนดการจดทะเบียนของ CFTC แทนการจดทะเบียนกับ SEC ในบางกรณี เพื่อเปิดโอกาสให้สินทรัพย์ดิจิทัลบางประเภทสามารถซื้อขายได้แม้ไม่อยู่ภายใต้การกำกับเดิม
โครงการโปรเจกต์คริปโตนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์การดำเนินการตามแนวทางของประธานาธิบดีทรัมป์ ผ่านกฎหมาย ‘GENIUS’ ที่มุ่งส่งเสริม **การกลับคืนของอุตสาหกรรมคริปโตสู่สหรัฐ(reshoring)** ด้วยการปฏิรูประบบธรรมาภิบาลดิจิทัล ทำให้ภาคอุตสาหกรรมในประเทศให้ความสนใจอย่างมาก
ทั้งนี้ SEC ได้มอบหมายให้คณะทำงานเฉพาะกิจที่นำโดยเฮสเตอร์ เพียร์ซ(Hester Peirce) กรรมาธิการ SEC เป็นผู้ร่างข้อเสนอเชิงนโยบายเบื้องต้น เพื่อผลักดันโครงการนี้ให้เกิดขึ้นจริงในอนาคตอันใกล้
ความคิดเห็น 0