ราอูล พาลชี้ คริปโตอาจมีผู้ใช้แตะ 4 พันล้านคน มูลค่าตลาดพุ่ง 100 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2030

แนวโน้มเชิงบวกเกี่ยวกับ *ศักยภาพการเติบโตระยะยาวของตลาดคริปโตเคอร์เรนซี* ได้รับการเน้นย้ำอีกครั้ง โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้ ราอูล พาล(Raoul Pal) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทสื่อด้านการลงทุน *เรียลวิชั่น(Real Vision)* ได้แสดงความเห็นผ่านโซเชียลมีเดียว่า ภายในปี 2030 จำนวนผู้ใช้งานคริปโตทั่วโลกอาจพุ่งแตะ ‘4 พันล้านคน’ และมูลค่าตลาดรวมอาจพุ่งสูงสุดถึง *100 ล้านล้านดอลลาร์* (ประมาณ 13.9 ตัวยาวของล้านล้านบาท)

พาลชี้ว่า *ความเร็วในการยอมรับคริปโตเร็วกว่าการเติบโตของเทคโนโลยีสารสนเทศถึงสองเท่า* และปัจจุบัน จำนวนผู้ใช้คริปโตใกล้ถึงหนึ่งพันล้านรายแล้ว ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับแนวโน้มการเติบโตของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในยุคปลายทศวรรษ 1990 พาลยังเปิดเผยกราฟการคาดการณ์การเติบโตของตลาด สื่อถึงแนวโน้ม ‘การเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล’ ของสินทรัพย์ดิจิทัลในช่วง 10 ปีข้างหน้า

สำหรับแรงผลักดันหลักที่อยู่เบื้องหลังการขยายตัวของตลาดนี้ พาลอธิบายไว้ 2 ปัจจัย ได้แก่ ‘การเสื่อมศรัทธาต่อระบบการเงินทั่วโลก’ ซึ่งนำไปสู่ ‘การลดค่าของเงินตราแบบดั้งเดิม’ และ ‘การยอมรับเทคโนโลยี’ ของคริปโตในฐานะเป็นสินทรัพย์ทางเลือกที่สามารถมาแทนระบบการเงินเดิมได้

เขาย้ำว่า *ตลาดคริปโตที่มีมูลค่าราว 4 ล้านล้านดอลลาร์ในเวลานี้* อาจขยายตัวจนถึง 100 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2032 ถึง 2034 ซึ่งหากเกิดขึ้นจริง *คริปโตเคอร์เรนซีจะกลายเป็นศูนย์กลางของตลาดการเงินโลก* และอาจเข้ามาแทนสินทรัพย์แบบดั้งเดิมได้อย่างมีนัยสำคัญ

อย่างไรก็ตาม ในช่วงเดือนกันยายนที่ใกล้เข้ามา ตลาดก็มีแนวโน้มปรับฐานระยะสั้นเช่นกัน เนื่องจากกันยายนถือเป็นเดือนที่ไม่เป็นมิตรต่อ *สินทรัพย์เสี่ยงอย่างบิตคอยน์(BTC)* โดยในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา บิตคอยน์มีค่าเฉลี่ยการลดลงอยู่ที่ราว 6% และผลตอบแทนเฉลี่ยในช่วง 5 ปีก็อยู่ที่ -2.55%

แม้จะมีความกังวลระดับหนึ่ง แต่ *การเข้ามาของนักลงทุนสถาบัน* รวมถึง *การเติบโตของกองทุน ETF* ช่วยลดผลกระทบตามฤดูกาลที่มักเกิดขึ้น ขณะเดียวกัน ความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐจะลดดอกเบี้ย ก็อาจเป็นปัจจัยหนุนให้เม็ดเงินไหลเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยงอย่างคริปโตเพิ่มขึ้น

พาลแสดงความเห็นเพิ่มเติมว่า “สิ่งที่สำคัญในตอนนี้ไม่ใช่แนวโน้มระยะสั้นหรือฤดูกาล แต่เป็น *การเปลี่ยนโครงสร้างที่เกิดจากการยอมรับคริปโตในระดับมหภาค*” เขายังแชร์กราฟราคาบิตคอยน์ตั้งแต่ปี 2017 พร้อมกล่าวว่า “การกังวลว่าเดือนกันยายนจะอ่อนตัวหรือไม่ ไม่ได้เป็นแนวทางที่ส่งผลดีต่อนักลงทุน”

การคาดการณ์ครั้งนี้จึงไม่ใช่เพียงเรื่องของ ‘ราคาที่อาจเพิ่มขึ้น’ เท่านั้น แต่สื่อถึง *การเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญของบทบาทคริปโต* ในเศรษฐกิจโลก ด้วยมุมมองที่คริปโตอาจกลายเป็น ‘ระบบการเงินทางเลือก’ ที่มีความสำคัญไม่น้อยหน้าระบบการเงินเดิมอีกต่อไป