ทอม ซชาคห์(Tom Zschach) ประธานเจ้าหน้าที่นวัตกรรมของเครือข่ายส่งข้อความทางการเงินระดับโลก สวิฟต์(SWIFT) ออกมาแสดงความเห็นอย่างตรงไปตรงมาเกี่ยวกับ *ริปเปิล(XRP)* โดยตั้งคำถามถึงความแข็งแกร่งที่แท้จริงของโปรเจกต์ดังกล่าว แม้ว่าริปเปิลจะมีความคืบหน้าในการต่อสู้ทางกฎหมายกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ(SEC) แต่ซชาคห์ชี้ว่า ‘การรอดพ้นจากคดีความไม่ได้หมายถึงความยืดหยุ่นที่แท้จริง’ เพราะยังขาดโครงสร้างธรรมาภิบาลที่ ‘ควบคุมได้และเป็นกลาง’
ผ่านทางโซเชียลมีเดียของเขา ซชาคห์เน้นว่า *นักลงทุนสถาบันไม่ต้องการตกอยู่ภายใต้อำนาจของโครงสร้างพื้นฐานของบริษัทคู่แข่ง* และเฉพาะแพลตฟอร์มที่มี ‘ธรรมาภิบาลร่วมแบบอิสระ’ เท่านั้นที่จะสามารถสร้างความเชื่อมั่นในระดับอุตสาหกรรมได้ เขายังชี้ให้เห็นถึงจุดแข็งของสวิฟต์ ซึ่งมีโครงสร้างแบบความเป็นเจ้าของร่วมของธนาคารมากกว่า 10,000 แห่งทั่วโลก โดยทุกฝ่ายมีส่วนร่วมในการตัดสินใจผ่านฉันทามติ ซชาคห์ไม่ได้เอ่ยชื่อริปเปิลโดยตรงในประเด็นนี้ แต่แนวคิดดังกล่าวถูกมองว่า *เป็นการตั้งคำถามต่อแนวคิด ‘ไร้ศูนย์กลาง’ ของ XRP เลดเจอร์* อย่างชัดเจน
ในมุมมองของซชาคห์ การปฏิบัติตามกฎระเบียบหรือ *คอมพลายแอนซ์* ไม่ได้หมายถึงแค่การร่วมมือกับหน่วยงานกำกับดูแลเท่านั้น แต่รวมถึงความสามารถร่วมกันของทั้งอุตสาหกรรมในการสร้าง ‘มาตรฐานกลาง’ ที่สามารถใช้ได้จริง เขาเปรียบเทียบบล็อกเชนสาธารณะว่าเป็นเหมือน ‘เครื่องยนต์เจ็ทที่ไม่มีห้องนักบิน’ ซึ่งแม้จะเร็ว แต่ขาดกลไกสำคัญในการควบคุม เช่น การปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล อำนาจบังคับใช้กฎหมาย และความสามารถในการยอมรับกฎระเบียบ *ความคิดเห็น* ของเขาสะท้อนความเชื่อว่า ถ้าปราศจากองค์ประกอบเหล่านี้ บล็อกเชนจะไม่สามารถเข้าสู่กระแสหลักของอุตสาหกรรมการเงินได้จริง
ที่น่าสนใจคือ เขายังเสนอว่า *ภาคการเงินดั้งเดิมจะสามารถผสมผสานข้อดีของเชนสาธารณะเข้ากับโครงสร้างของตนได้* โดยปรับใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนในสภาพแวดล้อมที่ควบคุมได้ และอยู่ภายใต้กรอบกำกับดูแลที่ชัดเจน สะท้อนแนวโน้มที่สถาบันการเงินเริ่มนำความสามารถของเทคโนโลยีใหม่มาใช้โดย *ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาเทคโนโลยีที่ไม่ได้แสดงความโปร่งใสในเชิงธรรมาภิบาล*
แม้ว่าริปเปิลจะเดินหน้าอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างตัวเป็น ‘โครงสร้างพื้นฐานทางการเงินแห่งอนาคต’ แต่ความคิดเห็นของซชาคห์อาจสื่อถึงมุมมองของทั้งสวิฟต์และสถาบันการเงินทั่วโลกว่าความไว้วางใจใน *โครงสร้างธรรมาภิบาลของ XRP* ยังเป็นประเด็นหลักที่ต้องพิสูจน์ต่อไป และในขณะที่ความสามารถทางเทคนิคและชัยชนะทางกฎหมายช่วยเพิ่มแรงส่ง โจทย์สำคัญในอนาคตก็อาจอยู่ที่ *ความสามารถในการสร้างความเชื่อมั่นในระบบจัดการอำนาจของตัวเอง* อย่างแท้จริง
ความคิดเห็น 0