ตลาดคริปโตพุ่งแตะ 3.8 ล้านล้านดอลลาร์ ผู้นำวงการผงาดสร้างความมั่งคั่งยุค Web3

ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีกำลังกลับมา ‘คึกคัก’ อีกครั้งในช่วงกลางปี 2025 โดยมูลค่ารวมของตลาดขณะนี้พุ่งแตะ 3.8 ล้านล้านดอลลาร์ (ราว 5,282 ล้านล้านวอน) เพิ่มขึ้นกว่า 130% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา กระแส *ความมั่งคั่งใหม่* นี้สะท้อนออกมาอย่างชัดเจนผ่านผู้นำอุตสาหกรรมอย่างซีอีโอและผู้ก่อตั้งระดับแนวหน้าของวงการคริปโต ซึ่งไม่เพียงแค่บริหารธุรกิจเท่านั้น แต่ยังกลายเป็นผู้กำหนดทิศทางสำคัญของตลาดอีกด้วย

หนึ่งในรายชื่อที่น่าจับตามองได้แก่ จางเผิง จ้าว(CZ) ผู้ก่อตั้งไบแนนซ์, เปาโล อาโดอิโน(Paolo Ardoino) ผู้ถือหุ้นหลักของเทเธอร์(USDT) รวมถึงไบรอัน อาร์มสตรอง(Brian Armstrong) ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทซื้อขายคริปโตชื่อดังอย่างคอยน์เบส(COIN) โดยทั้งสามคนมีบทบาทสำคัญในตลาดตลาดแลกเปลี่ยนและกลุ่มสเตเบิลคอยน์ สะสมความมั่งคั่งอย่างต่อเนื่องตามทิศทางของตลาดขาขึ้น

น่าสนใจคือ ไม่ได้มีเพียงบทบาทซีอีโอเท่านั้นที่สามารถสร้างความมั่งคั่งได้ ตัวอย่างที่ดีคือ วีทาลิก บูเทอริน(Vitalik Buterin) ผู้ร่วมก่อตั้งอีเธอเรียม(ETH) ซึ่งไม่ได้มุ่งเน้นการบริหารบริษัท หากแต่เป็นนักออกแบบเชิงเทคนิคที่มีบทบาทในโครงสร้างพื้นฐานของระบบนิเวศแบบกระจายศูนย์ (*Decentralized*) และยังสามารถสร้างสถานะทางการเงินได้ในระดับเดียวกับผู้ประกอบการสายธุรกิจ

อีกกลุ่มหนึ่งที่มาแรงคือ *กลุ่มเศรษฐีหน้าใหม่* จากโมเดล Web3 เช่นทีมผู้ก่อตั้งแพลตฟอร์มเดิมพันออนไลน์ สเตกดอทคอม(Stake.com) ซึ่งใช้เทคโนโลยี Web3 ผสมผสานกับวงการบันเทิง เกม และวัฒนธรรมสมัยนิยมอย่างได้ผล ความพยายามของพวกเขาสะท้อนถึงการเกิดขึ้นของเศรษฐกิจคริปโตในรูปแบบใหม่ ที่มีความเชื่อมโยงกับโลกจริงมากขึ้นและดึงดูดความสนใจจากตลาดผู้บริโภควงกว้าง

แม้คริปโตกลุ่มนำในวันนี้จะดูแข็งแกร่ง แต่ *ผู้นำวงการคริปโต* ก็อาจเปลี่ยนหน้าได้ตลอดเวลา แค่ย้อนกลับไปเพียง 10 ปีก่อน ชื่อของบุคคลเหล่านี้ยังแทบไม่มีใครรู้จัก ซึ่งตอกย้ำความจริงที่ว่า การเปลี่ยนผ่านผู้นำในอุตสาหกรรมนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และเรามีแนวโน้มจะได้เห็นนักพัฒนาหรือผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่มีทั้งความคิดสร้างสรรค์และเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาเป็นผู้นำตลาดในอนาคตอันใกล้

ตัวอย่างที่ชัดเจนคือพี่น้อง *วิงเคิลวอส(Winklevoss)* ผู้กลายเป็น *มหาเศรษฐีบิตคอยน์(BTC)* รุ่นแรกหลังจากนำเงินกว่า 11 ล้านดอลลาร์ (ราว 153 พันล้านวอน) จากคดีความกับเฟซบุ๊กไปลงทุนในบิตคอยน์ ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นกับพวกเขาก็อาจเป็นภาพสะท้อนของคนกลุ่มใหม่ในวันนี้ ซึ่งสามารถกลายเป็นผู้นำตลาดในอนาคต

ท้ายที่สุด แม้ตัวเลขมูลค่าในปัจจุบันจะน่าตื่นเต้นเพียงใด แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือ ‘ทิศทางต่อไป’ ของระบบนิเวศคริปโต เพราะนั่นต่างหากคือจุดเปลี่ยนที่แท้จริงซึ่งจะกำหนดอนาคตทั้งของตลาดและผู้เล่นในเกมนี้ ความมั่งคั่งยังคงเป็นเพียงผลลัพธ์ของความสามารถในการมองเห็นอนาคตและลงมือก่อนใคร — และนี่คือแก่นของเกมคริปโตในยุคใหม่.