มูลนิธิอีเธอเรียม(Ethereum Foundation) ซึ่งทำหน้าที่สนับสนุนการพัฒนาอีเธอเรียม(ETH) กำลังถูกจับตามองอีกครั้ง หลังประกาศแผนขายอีเธอเรียมมูลค่าราว 60 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 2,160 ล้านบาท) เพื่อนำเงินไปใช้ขับเคลื่อนระบบนิเวศของเครือข่าย โดยในการขายครั้งนี้ มูลนิธิจะนำเงินไปใช้ในการวิจัย การสนับสนุนชุมชน และพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของเทคโนโลยี
เมื่อวันที่ 2 มูลนิธิอีเธอเรียมเปิดเผยผ่านบัญชี X (ชื่อเดิม Twitter) อย่างเป็นทางการว่า มีแผนจะขาย *10,000 ETH ผ่านตลาดซื้อขายแบบรวมศูนย์* ภายในช่วงหลายสัปดาห์ข้างหน้า ทั้งนี้เพื่อหลีกเลี่ยงแรงกระแทกต่อราคาตลาด การขายจะดำเนินไปแบบค่อยเป็นค่อยไปในหลายรอบ โดยรายได้จากการขายจะถูกนำไปใช้เป็น *ทุนสนับสนุนโครงการวิจัยและกิจกรรมของชุมชนในระบบนิเวศอีเธอเรียม*
การขายครั้งนี้เป็นไปตาม *นโยบายบริหารคลังสินทรัพย์* ของมูลนิธิที่ประกาศใช้เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งระบุว่ามูลนิธิจะประเมินสัดส่วนสินทรัพย์เงินสดอย่างสม่ำเสมอ และตัดสินใจขาย ETH ตามความเหมาะสม โดยตามนโยบายนี้ ETH มูลค่าราว 25 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 900 ล้านบาท) ถูกขายให้กับหน่วยงานภายนอก เช่น ชาร์ปลิงค์ เกมมิง(SharpLink Gaming) และล่าสุดก็มีการขายเพิ่มอีก *2,795 ETH คิดเป็นมูลค่ากว่า 17.7 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 637 ล้านบาท)* จากการทำธุรกรรมสองครั้ง
ที่ผ่านมามูลนิธิอีเธอเรียมไม่มีนโยบายถือ ETH โดยไม่ขายในระยะยาว และเคยขายเมื่อถึงจุดสำคัญของตลาด ตัวอย่างปีก่อนหน้าในเดือนธันวาคม ปี 2020 มูลนิธิได้ *ขาย ETH จำนวน 100,000 ETH* ในครั้งเดียว ซึ่ง *นักวิเคราะห์หลายรายมองว่าเป็นปัจจัยหนึ่งที่สนับสนุนให้ราคา ETH พุ่งทำสถิติสูงสุดในขณะนั้น*
*ความคิดเห็น*: การเคลื่อนไหวของมูลนิธิในครั้งนี้ไม่ใช่การเทขายเพื่อเอากำไรระยะสั้น แต่เป็นส่วนหนึ่งของแนวทางปรับโครงสร้างเพื่อความยั่งยืนของอีเธอเรียมในระยะยาว ผู้ลงทุนและผู้มีส่วนร่วมในตลาดต่างเฝ้าจับตาการขายที่จะเกิดขึ้นในช่วง 3 เดือนข้างหน้าอย่างใกล้ชิด
ความคิดเห็น 0