นักวิเคราะห์ชี้ บิตคอยน์(BTC) อาจพุ่งแตะ 150,000 ดอลลาร์ แม้ตลาดยังระวังตัว

บิตคอยน์(BTC) กำลังได้รับความสนใจอีกครั้ง หลังจากนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ราคามีโอกาสแตะระดับสูงสุดในประวัติศาสตร์ที่ 150,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 5.48 ล้านบาท) ด้วยปัจจัยทางเทคนิคและโครงสร้างตลาดที่บ่งชี้แนวโน้มเป็น *ขาขึ้น* ซึ่งอาจทำให้เกิดการดีดตัวอย่างรุนแรงแม้มีเม็ดเงินใหม่ไหลเข้าน้อยกว่าครั้งก่อน ในทางกลับกัน ริปเปิล(XRP) กลับเผชิญแรงขายอีกรอบหลังไม่สามารถประคองระดับ 3 ดอลลาร์ (ประมาณ 4,170 บาท) ได้ ส่งผลให้ความหวังในการฟื้นตัวยังคงริบหรี่ ส่วนโดชคอยน์(DOGE) ก็ไม่ต่างกัน โดยถูกต้านอย่างหนักที่ระดับ 0.30 ดอลลาร์ และตกลงมาทำจุดต่ำสุดใหม่ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม

ปัจจุบันราคาบิตคอยน์เคลื่อนไหวที่ระดับ 115,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 4.2 ล้านบาท) โดยมีแรงซื้อและแนวรับที่มั่นคง ขณะที่เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50, 100 และ 200 วันทั้งหมดเริ่มชี้ขึ้น หมายถึงแนวโน้มเชิงบวกเพิ่มเติม อีกทั้งดัชนี RSI ยังอยู่ที่ระดับ 55 ซึ่งสะท้อนว่ายังไม่เข้าสู่ภาวะ "ซื้อมากเกินไป" นักวิเคราะห์มองว่า หากผ่านแนวต้าน 120,000~125,000 ดอลลาร์ ได้เมื่อใด เส้นทางสู่ระดับ 150,000 ดอลลาร์จะเปิดกว้างมากขึ้น

แม้ยังไม่มีความเคลื่อนไหวจาก ETF รายใหญ่ รวมถึงนักลงทุนทั้งรายย่อยและสถาบันยังคงจับตา *สถานการณ์แบบระมัดระวัง* แต่ก็มีความคิดเห็นว่า หากแรงซื้อเริ่มหลั่งไหลเข้ามาเมื่อใด ความเร็วในการขึ้นราคาของ BTC จะสูงอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากโครงสร้างตลาดเอื้อต่อแนวโน้มขาขึ้นอยู่แล้ว

สำหรับริปเปิล ความหวังก่อนหน้านี้ที่ราคาขึ้นไปแตะ 3.20 ดอลลาร์ (ประมาณ 4,448 บาท) ได้พังทลายลงอย่างรวดเร็ว หลังหลุดกลับไปที่ 2.99 ดอลลาร์ และมีแนวโน้มจะทดสอบจุดต่ำสุดที่ 2.96 ดอลลาร์ หากไม่สามารถยืนเหนือระดับนี้ได้ อาจไถลลงไปที่ 2.60 ดอลลาร์ (ประมาณ 3,614 บาท) โดยมีแรงขายจำนวนมากกดดันตลาด นอกจากนี้ ปริมาณธุรกรรมรายวันของเครือข่าย XRP ที่ลดลงต่อเนื่องยังเป็นสัญญาณลบสะท้อนถึงความต้องการใช้จริงที่อ่อนตัวลง ทำให้การฟื้นตัวทางเทคนิคไม่มีแรงหนุนรองรับ

ด้านโดชคอยน์ ซึ่งเคยทะลุแนวต้านสำคัญ 0.30 ดอลลาร์ ไปได้ชั่วครู่ กำลังเผชิญกับแรงขายรุนแรงจนร่วงลงมาแถว 0.27 ดอลลาร์ (ประมาณ 376 บาท) ซึ่งเป็นการลดลงครั้งใหญ่สุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม สาเหตุหลักมาจากการขายทำกำไรของนักลงทุน อย่างไรก็ตาม ราคายังอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ยหลัก ทำให้ยังมี *โอกาสฟื้นตัวแบบเทคนิค* หากสามารถรักษาระดับ 0.26~0.27 ดอลลาร์เอาไว้ได้

หากโดชคอยน์สามารถ *สร้างฐานบริเวณปัจจุบัน* และระบายอาการร้อนแรงของตลาดออกไปได้ก็มีโอกาสกลับไปทดสอบ 0.30 ดอลลาร์อีกครั้ง แต่ในทางกลับกัน หากแนวรับ 0.24 ดอลลาร์ (ประมาณ 334 บาท) พังลง ตลาดอาจถอยกลับไปสู่ระดับ 0.21~0.22 ดอลลาร์ (ประมาณ 292~306 บาท) ส่งผลให้แนวโน้มขาขึ้นระยะกลางสะดุด

โดยรวมแล้ว ดัชนีตลาดคริปโตยังไม่ได้สะท้อนการไหลเข้าของเงินทุนขนาดใหญ่ แต่โครงสร้างของตลาดในขณะนี้เข้าข้างบิตคอยน์มากที่สุด ขณะที่ XRP และ DOGE ยังดูไม่พร้อมจะเป็นผู้นำเทรนด์ใหม่ เมื่อบิตคอยน์นำตลาดขึ้นจริง ความเคลื่อนไหวครั้งเดียวที่รุนแรงมีโอกาสเป็น *ตัวจุดชนวน* สำคัญที่เปลี่ยนแนวโน้มให้กับตลาดทั้งหมด