พายคอยน์(PI) มีลุ้นพุ่ง 240% หลังชุมชนคึกคัก-นักวิเคราะห์ชี้สัญญาณขาขึ้น

ราคาของ *พายคอยน์(PI)* ซึ่งเป็นคริปโตเคอร์เรนซีจากโครงการ *พายเน็ตเวิร์ก(Pi Network)* กำลังได้รับความสนใจอีกครั้ง หลังจากผ่านช่วงร่วงลงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมีการประเมินว่า *พายคอยน์* อาจมีโอกาส *พุ่งขึ้นมากถึง 240%* จากระดับปัจจุบัน ท่ามกลางความเชื่อมั่นในตัวชี้วัดเชิงเทคนิคและความคาดหวังจากชุมชน ขณะที่ความเคลื่อนไหวของโทเคนจำนวนมากที่จะถูกปลดล็อกในเร็วๆ นี้ และปริมาณโทเคนในกระดานเทรดที่เพิ่มสูงขึ้น กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่อาจส่งผลต่อทิศทางราคาในระยะสั้น

ณ ราคาปัจจุบันที่ประมาณ *0.36 ดอลลาร์ (หรือราว 500 บาท)* นักวิเคราะห์บางรายเชื่อว่าราคามีแนวโน้มขยับขึ้นถึง *1.23 ดอลลาร์ (ประมาณ 1,710 บาท)* หรือเพิ่มขึ้นกว่า *242%* เมื่อเทียบกับระดับปัจจุบัน โดยก่อนหน้านี้ในช่วงต้นปีที่แล้ว *พายคอยน์* เคยแตะระดับ *3 ดอลลาร์ (กว่า 4,170 บาท)* และได้รับความสนใจอย่างมากจากนักลงทุน ก่อนจะร่วงลงต่อเนื่องจนนำมาสู่จุดที่เป็นอยู่ในขณะนี้

หนึ่งในนักวิเคราะห์ที่ได้รับการจับตามองมากที่สุดคือ *JAVON MARKS* ซึ่งอ้างอิงตัวชี้วัดทางเทคนิค *MACD* ชี้ว่าราคามี “*สัญญาณบ่งชี้แนวโน้มขาขึ้นแบบแฝง*” (Hidden Bullish Divergence) ซึ่งอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการฟื้นตัว ขณะที่ *MOON JEFF* นักวิเคราะห์อีกคนหนึ่งในแพลตฟอร์ม X (เดิมคือ Twitter) มองว่าขณะนี้ยังคงเป็นช่วงที่นักลงทุนกำลังสะสมเหรียญ (accumulation phase) และคาดว่าราคาจะสามารถทำ ‘*จุดสูงสุดตลอดกาลใหม่*’ ในไม่ช้า

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีความหวังเรื่องแนวโน้มขาขึ้น แต่ปัจจัยเสี่ยงก็ยังคงมีอยู่มาก โดยในช่วง *30 วันข้างหน้า* คาดว่าจะมีการ ‘*ปลดล็อกโทเคนกว่า 140 ล้าน PI*’ ซึ่งอาจเพิ่มความกดดันด้านอุปทานในตลาดอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า ‘*ปริมาณ PI ที่ถูกฝากไว้ในกระดานซื้อขายมีจำนวนสูงสุดเป็นประวัติการณ์กว่า 445 ล้านโทเคน*’ แม้ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการจากทางทีมงาน แต่ก็มีความกังวลว่าปริมาณดังกล่าวอาจถูกนำออกขายในระยะสั้น

ด้านพัฒนาการของโครงการนั้น *พายเน็ตเวิร์ก* ยังคงเดินหน้าต่อยอดและขยายระบบนิเวศอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดมีการอัปเกรดระบบโปรโตคอลจากเวอร์ชัน 19 เป็นเวอร์ชัน 23 ซึ่งครอบคลุมทั้งเครือข่าย testnet และ mainnet ช่วยเสริมประสิทธิภาพและความปลอดภัย รวมถึงมีการปรับปรุงการยืนยันตัวตนแบบรู้จักลูกค้า (KYC) ให้มีความเข้มงวดยิ่งขึ้น โดยเวอร์ชันใหม่นี้ยังพัฒนาบนพื้นฐานของโปรโตคอล *สเตลลาร์(Stellar)* อีกด้วย

นอกจากนี้ *ดร.เฉิงเตียว ฟาน (Chengdiao Fan)* ผู้ร่วมก่อตั้งโครงการ ยังได้รับเชิญให้เป็นหนึ่งในผู้บรรยายหลักในงาน *TOKEN2049* ซึ่งจะจัดขึ้นช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ประเทศสิงคโปร์ โดยงานนี้ยังมีบุคคลสำคัญในวงการคริปโตมากมายเข้าร่วม เช่น พาโอโล อาร์โดยิโน จาก *เทเธอร์*, ริชาร์ด เต็ง จาก *ไบแนนซ์*, ทอม ลี จาก *บิทเมน*, อาเธอร์ เฮย์ส(Arthur Hayes) จาก *เมลสตรอม*, และ จัสติน ซัน จาก *ทรอน* ซึ่งการปรากฏตัวของ *พายเน็ตเวิร์ก* ในระดับสากลถือเป็นอีกแรงสนับสนุนสำคัญต่อการสร้างความน่าเชื่อถือของโครงการในสายตานักลงทุนทั่วโลก

สุดท้ายแล้ว เส้นทางของ *พายคอยน์* จะขึ้นอยู่กับทั้ง *โอกาสในการฟื้นตัวทางเทคนิค* และ *ความสามารถของทีมงานในการบริหารแรงกดดันด้านอุปทาน พร้อมกับขับเคลื่อนระบบนิเวศให้เติบโตได้อย่างสมดุล* ท่ามกลางแรงซื้อขายที่ซับซ้อนเช่นนี้ ตลาดยังจับตาว่าการเคลื่อนไหวรอบนี้จะเป็นเพียงแค่จังหวะพักตัว หรือคือจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในระยะยาว