โปรโตคอลเวิร์มโฮล(Wormhole) ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานแบบ ‘พิสูจน์ด้วยความรู้ศูนย์’ (Zero-Knowledge Proof) สำหรับการทำงานร่วมกันระหว่างบล็อกเชน ได้รับความสนใจจากตลาดอย่างล้นหลาม หลังประกาศปรับโครงสร้างแบบเต็มรูปแบบของโทเคนหลัก **W** เมื่อวันที่ 3 โดยทันทีหลังข่าวแพร่ออก ราคาของโทเคน **W** พุ่งขึ้นกว่า 6.3% ในเวลาเพียงหนึ่งวัน สะท้อนถึงการตอบรับที่แข็งแกร่งจากนักลงทุน
หัวใจสำคัญของการปรับโทเคโนมิกส์ครั้งนี้ คือการเปิดตัวคลังโทเคนรูปแบบใหม่ในชื่อ ‘W รีเซิร์ฟ’ ที่เป็นกลไกจัดเก็บผลตอบแทนซึ่งได้รับเงินทุนจากค่าธรรมเนียมและรายได้ของโปรโตคอล การเปลี่ยนแปลงนี้ช่วยเพิ่มโอกาสในการให้รางวัลแก่ผู้ที่เข้าร่วมสเตกอย่างมีนัยสำคัญ โดยรายได้จากการสเตกจะถูกกำหนดอัตราพื้นฐานที่ 4% และสามารถเพิ่มขึ้นได้ตามระดับการมีส่วนร่วมในระบบนิเวศ นอกจากนี้ การปลดล็อกโทเคนยังปรับจากรูปแบบเดิมที่ล็อกแน่นหนา มาเป็นระบบการปลดเป็นช่วง ๆ ทุก 2 สัปดาห์ ซึ่ง ‘เพิ่มความเสถียรในการหมุนเวียนของโทเคน’ ได้อย่างเห็นได้ชัด
เวิร์มโฮลระบุว่า ในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า ตั้งเป้าจะ ‘ขยายขนาดธุรกรรมการโอนสินทรัพย์และการส่งข้อความอย่างมหาศาล’ และเมื่อมีการใช้งานในระบบเพิ่มขึ้น รายได้ที่ไหลเข้าสามารถนำกลับเข้าสู่ระบบโทเคนอีกครั้ง ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้มีการล็อกโทเคนระยะยาวมากขึ้น
‘ความคิดเห็น’ การปรับทิศทางเชิงโครงสร้างครั้งนี้ยังสะท้อนถึงกระบวนการกำกับดูแลภายในที่มีความก้าวหน้า เนื่องจากโทเคน **W** ที่นำมาสตีกจะมอบสิทธิในการออกเสียงผ่านตัวแทนผู้ได้รับมอบอำนาจ ซึ่งอาจนำไปสู่ ‘โครงสร้างการตัดสินใจ’ ใหม่ในระบบนิเวศทั้งหมด
เวิร์มโฮล ก่อตั้งขึ้นช่วงปลายปี 2020 เพื่อเชื่อมต่อสินทรัพย์ระหว่างอีเธอเรียม(ETH) และโซลานา(SOL) เพิ่งเปิดตัวโทเคน **W** อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 3 เมษายนที่ผ่านมา การปรับโครงสร้างในครั้งนี้นับเป็น ‘การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่’ ครั้งแรกนับตั้งแต่เปิดตัว ถือเป็นก้าวที่สะท้อนถึงกลยุทธ์การเพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้ใช้และพัฒนาระดับความพร้อมของตลาด
ทั้งนี้ แนวทางล่าสุดของเวิร์มโฮลไม่เพียงมุ่งเน้นแค่การทำหน้าที่เป็นโครงสร้างบริดจ์เท่านั้น แต่ยังชี้ให้เห็นถึง ‘ศักยภาพในการพัฒนาเป็นระบบ Layer-2 เต็มรูปแบบ’ ที่มีโครงสร้างรายได้และการกำกับดูแลเป็นของตนเอง พร้อมกับสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในบริบทของการทำธุรกรรมข้ามเชนได้อย่างหลากหลายในอนาคต
ความคิดเห็น 0