ราคาของ *เชนลิงก์(LINK)* กำลังแสดง ‘สัญญาณขาขึ้น’ ที่แข็งแกร่ง หลังจากมีการฟอร์มตัวเป็นรูปแบบ ‘ธงกระทิง’ บนกราฟรายสัปดาห์ โดยมีกระแสเงินลงทุนจากสถาบันและความร่วมมือกับพันธมิตรรายใหม่เป็นตัวขับเคลื่อนหลัก ด้านนักวิเคราะห์เชื่อว่าราคาของ LINK มีโอกาสพุ่งแตะ *40 ดอลลาร์* หรือราว *55,600 บาท* ได้ในอนาคตอันใกล้
ณ ขณะนี้ เชนลิงก์กำลังซื้อขายอยู่ที่ระดับ *ประมาณ 23 ดอลลาร์* (ราว *32,000 บาท*) หลังจากที่ราคาพุ่งแรงในช่วงกรกฎาคมถึงสิงหาคม ก่อนเข้าสู่ช่วงพักฐานเพื่อสะสมแรงซื้อใหม่ นักวิเคราะห์ด้านเทคนิคมองว่า ‘รูปแบบธงกระทิง’ ที่กำลังก่อตัวอยู่นี้มักเป็นสัญญาณของการขาขึ้นอีกระลอก และหากเบรกผ่านแนวต้านสำคัญได้ อาจมีโอกาสบุกเข้าสู่โซน *35–40 ดอลลาร์*
ในระยะสั้น ทิศทางของ LINK ยังผันผวนอยู่บ้าง โดยในกราฟรายวัน ระดับแนวต้านเดิมกลายมาเป็นแนวรับ และคู่เทรดกับบิตคอยน์ (LINK/BTC) เริ่มฟื้นตัวหลังจากร่วงลงก่อนหน้านี้ บริษัทวิเคราะห์ข้อมูล CRYPTOWZRD ระบุว่า หากสามารถทะลุผ่าน *24 ดอลลาร์* (ประมาณ *33,300 บาท*) ได้อย่างมั่นคง ราคามีโอกาสพุ่งถึงระดับถัดไปที่ *26.5 ดอลลาร์* (ราว *36,800 บาท*) ขณะที่โซน *22 ดอลลาร์* (ประมาณ *30,600 บาท*) ยังเป็นแนวรับแข็งแกร่ง
ในด้านเม็ดเงินลงทุน *สถาบันเริ่มเข้ามาเคลื่อนไหวมากขึ้น* โดยบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แนสแด็กอย่าง *แคลิเบอร์ (Caliber)* ซึ่งดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และสินทรัพย์ดิจิทัล ได้ประกาศเข้าซื้อ LINK โดยไม่เปิดเผยจำนวนอย่างเป็นทางการ แต่แสดงเจตนารมณ์ชัดเจนถึงการขยายสู่กลยุทธ์สินทรัพย์ดิจิทัล สะท้อนความเชื่อมั่นในมูลค่าระยะยาวของโปรโตคอลเชนลิงก์
ในขณะเดียวกัน *กองทุน Grayscale* ก็ได้ยื่นคำขอจัดตั้ง ETF ที่อิงกับเชนลิงก์อย่างเป็นทางการในชื่อ ‘GLNK’ ต่อ NYSE Arca ซึ่งเป็นสัญญาณบวกต่อการเปิดโอกาสให้นักลงทุนสถาบันเข้าถึงสินทรัพย์นี้ได้สะดวกยิ่งขึ้น ก่อนหน้านี้ บิทไวส์(Bitwise) ก็เคยยื่นขออนุมัติ ETF ลักษณะเดียวกันมาแล้ว
อีกหนึ่งข่าวดีสำหรับเชนลิงก์คือความร่วมมือกับ *ธนาคาร SAB ของซาอุดีอาระเบีย* ซึ่งมีเป้าหมายในการพัฒนาโซลูชันบล็อกเชนเพื่อปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานของระบบการเงินข้ามพรมแดน โดยทาง SAB เองระบุว่า การจับมือครั้งนี้ถือเป็น *“จุดเปลี่ยนสำคัญที่จะผลักดันนวัตกรรมทางการเงินภายในประเทศ”*
การขยายตัวของเชนลิงก์ในฐานะ *โอราเคิลเน็ตเวิร์ก* กำลังดำเนินไปทั้งในตลาดการเงินแบบกระจายศูนย์ (DeFi) และการประยุกต์ใช้ในองค์กรใหญ่ การยื่นขอ ETF รวมถึงการจับมือกับพันธมิตรระดับโลก จึงเป็นแรงสนับสนุนที่มีศักยภาพในการผลักราคาของ LINK ทั้งในด้านเทคนิคและพื้นฐาน ในเวลานี้ สายตาของนักลงทุนจึงจับจ้องว่า เชนลิงก์จะสามารถทะลุแนวต้านสำคัญ และมุ่งสู่ระดับราคาที่สูงกว่าหรือไม่
ความคิดเห็น 0