อีทีเอฟของโดจคอยน์(DOGE) และริปเปิล(XRP) ที่เพิ่งเปิดตัวในสหรัฐฯ กลายเป็นกระแสร้อนแรงทันทีหลังวันแรกของการซื้อขาย โดยทำยอดซื้อขายทะลุเป้าหมาย พร้อมสร้างความประหลาดใจให้ทั้งนักลงทุนและนักวิเคราะห์ในตลาด
เมื่อวันที่ 24 ตามเวลาท้องถิ่น บลูมเบิร์กรายงานว่า อีริก บัลชูแนส(Eric Balchunas) นักวิเคราะห์ด้านอีทีเอฟของบลูมเบิร์ก เปิดเผยผ่านแพลตฟอร์ม X ว่า โดยปกติแล้ว อีทีเอฟที่เพิ่งเข้าตลาดใหม่มักมียอดซื้อขายวันแรกเพียงประมาณ 1 ล้านดอลลาร์ (ราว 1,390 ล้านบาท) เท่านั้น อย่างไรก็ตาม ‘โดจคอยน์ ETF’ และ ‘ริปเปิล ETF’ ที่เพิ่งจดทะเบียนใหม่ สามารถทำยอดซื้อขายรวมได้สูงถึง *5,470 ล้านดอลลาร์ (ราว 7,600 ล้านบาท)* ในวันแรก ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นผลงานที่ *ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน*
อีทีเอฟทั้งสองรายการนี้ถูกออกโดยบริษัทจัดการกองทุน REX Shares และ Osprey Funds โดยออกแบบมาให้ติดตามราคาของโดจคอยน์และริปเปิลตามลำดับ โดยริปเปิลถือเป็นคริปโตเคอร์เรนซีที่มีมูลค่าตลาดเป็นอันดับ 3 ในปัจจุบัน ส่วนโดจคอยน์ได้รับความนิยมในฐานะ ‘มีมคอยน์’ และมีมูลค่าตลาดใหญ่เป็นอันดับ 8
ในจำนวนนี้ อีทีเอฟของริปเปิล ซึ่งคือ ‘REX-Osprey XRP ETF (XRPR)’ ทำผลงานโดดเด่นเป็นพิเศษ ด้วยยอดซื้อขายมากถึง *3,770 ล้านดอลลาร์ (ราว 5,230 ล้านบาท)* ในวันแรก โดยบัลชูแนสกล่าวว่า "นี่คือยอดเข้าลงทุนในวันแรกที่สูงที่สุดในบรรดาอีทีเอฟที่เปิดตัวในปี 2025" ความเห็นนี้สะท้อนให้เห็นว่า *เม็ดเงินจากนักลงทุนสถาบันกำลังเริ่มหลั่งไหลเข้าสู่เหรียญทางเลือกขนาดใหญ่* อย่างแท้จริง
ในปัจจุบัน มีผลิตภัณฑ์อีทีเอฟที่เกี่ยวข้องกับคริปโตเคอร์เรนซีอีกหลายสิบรายการ — โดยเฉพาะอีทีเอฟที่เกี่ยวข้องกับ *สเตคกิ้งและดีไฟ (DeFi)* — รอการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC) ความสำเร็จของอีทีเอฟริปเปิลและโดจคอยน์ อาจเป็น *ปัจจัยเชิงบวกต่อการตัดสินใจของหน่วยงานกำกับดูแล* ในอนาคตอันใกล้
ในภาพรวม ความเคลื่อนไหวนี้สะท้อนให้เห็นว่าตลาดคริปโตได้รับการยอมรับมากขึ้นในแวดวงการเงินแบบดั้งเดิม และความเชื่อมโยงระหว่างทั้งสองโลกนั้นกำลังแข็งแกร่งยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ
ความคิดเห็น 0