ตำรวจแคนาดาได้เข้ายึดสกุลเงินดิจิทัล มูลค่าราว 400,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 55.6 ล้านบาท) โดย *ไม่มีการแจ้งเตือนหรือมีหลักฐานการฟ้องร้องล่วงหน้า* เหตุการณ์ดังกล่าวได้สร้างความตกตะลึงให้กับวงการคริปโต เนื่องจากการเข้ายึดครั้งนี้เกิดขึ้นโดยไม่มีหมายค้นหรือคำสั่งฟ้องใด ๆ โดยมุ่งเป้าไปที่แพลตฟอร์มเทรดคริปโต ‘เทรดโอกเกอร์(TradeOgre)’ ที่รู้จักกันในฐานะตลาดซื้อขายเหรียญเน้นความเป็นส่วนตัว ซึ่งไม่บังคับตรวจสอบยืนยันตัวตนของผู้ใช้งาน (KYC)
เมื่อวันที่ 24 (เวลาท้องถิ่น) ตำรวจม้าแคนาดา (RCMP) เปิดเผยว่า ได้เข้ายึด *บิตคอยน์(BTC) และอีเธอเรียม(ETH)* มูลค่ารวม 56 ล้านดอลลาร์แคนาดา จากเทรดโอกเกอร์ นับเป็นครั้งแรกที่ทางการแคนาดาได้ดำเนินการปิดตลาดคริปโตอย่างเป็นทางการโดย *ไม่มีการตั้งข้อหาใด ๆ* อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจยังเปิดทางสำหรับการฟ้องรับโทษในอนาคต โดยระบุว่าการสืบสวนยังคงดำเนินอยู่
เจ้าหน้าที่ระบุว่า เทรดโอกเกอร์ไม่มีการจดทะเบียนเป็นผู้ให้บริการทางการเงินกับศูนย์ข้อมูลทางการเงินของแคนาดา (FINTRAC) อีกทั้งไม่ดำเนินกระบวนการ KYC กับลูกค้า ทำให้มีความเสี่ยงต่อการถูกใช้เป็นช่องทางฟอกเงิน การสอบสวนเริ่มต้นขึ้นในเดือนมิถุนายน 2024 หลังได้รับเบาะแสจากหน่วยงานต่อต้านการฟอกเงินของยูโรโพล
เทรดโอกเกอร์ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2018 และได้รับความนิยมจากผู้ใช้นับพันราย เนื่องจากรองรับสกุลเงินคริปโตที่เน้นความเป็นส่วนตัว เช่น โมเนโร(XMR) ซึ่งโดดเด่นด้วยความสามารถในการซ่อนตัวตนของผู้ใช้งานและธุรกรรม ส่งผลให้เหรียญกลุ่มนี้ถูกใช้งานทั้งในแง่ *การปกป้องความเป็นส่วนตัว* และ *การปกปิดที่มาของเงินผิดกฎหมาย*
เหตุการณ์นี้ถูกมองว่าเป็น ‘สัญญาณแรก’ ของการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้นต่อแพลตฟอร์มที่ไม่ใช้ KYC โดยเฉพาะในเขตยุโรปและอเมริกาเหนือที่หน่วยงานกำกับเริ่มรุกเข้ามาจัดการกับเหรียญความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ความขัดแย้งระหว่างการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกับการควบคุมเงินผิดกฎหมายจึงเด่นชัดขึ้นในระดับโลก
ในมุมของอุตสาหกรรม ผู้เชี่ยวชาญออกมาเตือนว่า *แรงกดดันทางกฎหมายต่อแพลตฟอร์มที่ไม่ได้รับอนุญาตและเหรียญความเป็นส่วนตัวจะรุนแรงยิ่งขึ้น* พร้อมกับตั้งคำถามว่าการยึดคริปโตโดยไม่มีการฟ้อง มีแนวโน้มจะกลายเป็นบรรทัดฐานใหม่ของการปราบปรามหรือไม่ ความเคลื่อนไหวนี้จึงกลายเป็นบททดสอบสำคัญของแนวทางกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลในอนาคต
ความคิดเห็น 0