โมนาด(Monad) ท้าชนเลเยอร์ 1 เดิม! รองรับ 10,000 TPS พร้อมดึงนักพัฒนาและผู้ใช้สาย EVM

โมนาด(Monad) กำลังเป็นที่จับตามองในฐานะเลเยอร์ 1 รุ่นใหม่ที่มีศักยภาพสูงในตลาดบล็อกเชนสาธารณะ โดยรายงานร่วมระหว่างไคล์แล็บส์(Klein Labs) และเควันรีเสิร์ช(K1 Research) ระบุว่า โมนาดได้ทำลายข้อจำกัดด้าน ‘ประสิทธิภาพ’ และ ‘ความเข้ากันได้’ ด้วยการนำเสนอระบบ EVM สมรรถนะสูงที่สามารถรองรับธุรกรรมได้ถึง 10,000 รายการต่อวินาที(TPS) พร้อมการยืนยันธุรกรรมในเวลาไม่เกิน 0.8 วินาที ที่สำคัญยังคงความเข้ากันได้กับไบต์โค้ดของอีเธอเรียม(ETH) เพื่อเอื้อต่อการใช้งานของนักพัฒนาและผู้ใช้ใหม่

โมนาดพัฒนาขึ้นเพื่อแก้จุดอ่อนของสองผู้นำตลาดเดิม ได้แก่ ความ ‘ล่าช้าแต่มีระบบนิเวศน์เข้มแข็ง’ ของอีเธอเรียม และ ‘ความเร็วสูงแต่ขาดความสอดคล้อง’ ของโซลานา(SOL) โดยใช้กลไกฉันทามติวัลเลี่ยงการขัดแย้งแบบ ‘MonadBFT’ ที่สามารถยืนยันธุรกรรมได้ในหนึ่งรอบ พร้อมระบบ EVM แบบ ‘มองโลกในแง่ดี’ ที่สามารถประมวลผลแบบขนานและยกเลิกเฉพาะธุรกรรมที่ขัดแย้ง ช่วยเร่งผลลัพธ์จากสมาร์ตคอนแทรกต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ข้อมูลจากเควันรีเสิร์ชเผยว่า บนเครือข่ายทดสอบของโมนาดในช่วง 90 วันที่ผ่านมา มีอัตราความสำเร็จของธุรกรรมเฉลี่ยอยู่ที่ 98.18% คิดเป็นธุรกรรมสะสมกว่า 250 ล้านรายการ และมีจำนวนกระเป๋าเงินที่ใช้งานทะลุ 300 ล้านใบแล้ว แม้ 89% จะเป็นผู้ใช้งานครั้งเดียว แต่ก็สะท้อนการเข้าถึงกลุ่มผู้ใช้ขนาดใหญ่ได้ในช่วงเริ่มต้น ด้านประสิทธิภาพเครือข่ายทดลองยังอยู่ในระดับเฉลี่ย 100–350 TPS โดยมีบล็อกไทม์เพียง 0.5 วินาที ซึ่งชี้ให้เห็นถึงเสถียรภาพของสถาปัตยกรรมแบบขนาน

ในฝั่งของการพัฒนาโครงสร้างนิเวศ โมนาดเดินเครื่องเต็มที่ โดยมีโครงการที่จดทะเบียนเกิน 280 ราย รวมมูลค่ากว่า 1.3 พันล้านดอลลาร์ โครงการแนวหน้าด้าน DeFi เช่น aPriori, Kuru Exchange และ Kintsu ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทร่วมทุนรายใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น Pantera Capital, Binance Labs และ Paradigm ขณะที่ยูทิลิตี้นั้นขยายออกไปหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นอินฟราสตรักเจอร์ เกม RWA และโซเชียลเบตติ้ง

โมนาดยังมีแนวทางที่ชัดเจนในการสนับสนุนนักพัฒนาและผู้ใช้งาน โดยยึดหลัก 'Builders First' จัดตั้งโปรแกรม Foundry การแข่งขันแฮกกาธอน และระบบให้คำปรึกษาแบบครบวงจร เพื่อลดอุปสรรคในการเริ่มต้น ในขณะที่ฝั่งชุมชนก็เน้นกลยุทธ์แบบ ‘เชิญเท่านั้น’ ผ่านระบบ ‘Monad การ์ด’ พร้อมให้รางวัลแก่ผู้ให้ข้อเสนอแนะเชิงเทคนิคและกิจกรรม AMA อย่างต่อเนื่อง

ในการเปรียบเทียบกับคู่แข่งอย่าง บีเอสซี(BSC), เมกาอีทีเอช(MegaETH), เซอิ(Sei) โมนาดเน้นความแตกต่างที่ชัดเจนในแง่ ‘การกระจายศูนย์ที่แท้จริง’ และ ‘ความเข้ากันได้สูง’ โดยเฉพาะการไม่พึ่งพาซีเควนเซอร์แบบรวมศูนย์ ซึ่งเป็นจุดอ่อนของผู้แข่งขัน โดยเควันรีเสิร์ชระบุว่า ความสามารถในการย้ายระบบและดูดซับผู้ใช้จากอีเธอเรียมโดยตรงคือ ‘สินทรัพย์เชิงกลยุทธ์’ ที่มีค่าที่สุดของโมนาด

อย่างไรก็ตาม ความท้าทายยังมีอยู่หลายด้าน ทั้งความแตกต่างระหว่าง TPS จริงกับเป้าหมายบนทฤษฎี ข้อจำกัดในการดึงผู้ใช้งานกลับเข้าระบบ และประเด็นด้าน Decentralization ที่อาจเกิดขึ้นในช่วงสรรหาผู้ตรวจสอบเครือข่าย ซึ่งทีมพัฒนาก็แสดงท่าทีเปิดเผยข้อมูลอยู่เสมอ ทั้งผ่านรายงานเทคนิค นโยบาย Validators และข้อมูลจาก Testnet

โดยสรุป โมนาดกำลังสร้างที่มั่นในฐานะคู่แข่งรายสำคัญของสังเวียนเลเยอร์ 1 ด้วยแนวทาง ‘ความเร็วสูง + ความเข้ากันได้เต็มรูปแบบกับ EVM’ ควบคู่กับกลยุทธ์ที่มุ่งสนับสนุนผู้สร้างเทคโนโลยีอย่างจริงจัง ขณะที่เควันรีเสิร์ชมองว่า หลังการเปิดตัวเมนเน็ต ความสามารถในการรักษาประสิทธิภาพและการดำเนินกลยุทธ์ผู้ใช้อย่างยั่งยืน จะเป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนด ‘คุณค่าในระยะยาว’ ของโมนาด