บริษัทการเงินคริปโตเผชิญความเสี่ยงจากการระดมทุนแบบ PIPE (Private Investment in Public Equity) หลังวิจัยล่าสุดเตือนว่าอาจซ้ำเติมราคาหุ้นให้ร่วงหนัก โดย *คริปโตควอนต์(CryptoQuant)* เปิดเผยในรายงานเมื่อวันที่ 27 ว่า บริษัทที่ทำสัญญา PIPE จำนวนมากกำลังเจอกับ *ความเสี่ยงจากการร่วงของราคาหุ้น* และอาจมีโอกาสร่วงเพิ่มอีกสูงสุดถึง *50%*
จากการวิเคราะห์ดีล PIPE ของบริษัทที่ถือบิตคอยน์(BTC) ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ พบว่า หุ้นของบริษัทเหล่านี้ “มีแนวโน้มร่วงลงสู่ระดับราคา PIPE” หรือบางแห่งได้ *ร่วงอย่างรุนแรงไปแล้ว* ปัจจัยหลักมาจากการที่นักลงทุนรายแรกในดีล PIPE แห่ขายหุ้นในทันทีที่ล็อกอัปสิ้นสุด ส่งผลให้เกิด *แรงขายล้นตลาด(overhang)*
PIPE คือการที่บริษัทที่จดทะเบียนในตลาด ออกหุ้นเพิ่มทุนให้กับนักลงทุนแบบส่วนตัวในราคาต่ำกว่าตลาด เพื่อนำเงินมาใช้ทันที แม้จะช่วยให้หาเงินได้เร็วในช่วงตลาดซบเซา แต่ก็ *ลดสัดส่วนผู้ถือหุ้นเดิม(dilution)* และ *กดดันราคาหุ้น* ในระยะต่อมา
รายงานระบุต่อว่า เมื่อหุ้น PIPE สามารถขายได้ นักลงทุนก็มักจะรีบทำกำไรทันที และพฤติกรรมดังกล่าว ทั้งในแง่ *ที่เกิดขึ้นแล้วหรือคาดว่าจะเกิด* อาจเป็นตัวฉุดราคาหุ้นลงอีก ตัวอย่างหนึ่งคือบริษัท *Kindly MD*(NAKA) ที่เปลี่ยนจากธุรกิจด้านการแพทย์ไปเป็นบริษัทคริปโต เมื่อถึงวันที่หุ้น PIPE ถูกปลดล็อก ราคาหุ้นก็ *ดิ่งลงเกือบ 50% ภายในวันเดียว*
คริปโตควอนต์จึงย้ำว่า แม้ PIPE จะเป็นทางเลือกสำหรับการหาเงินสดในระยะสั้น แต่ในภาพรวมระยะกลางถึงยาว อาจส่งผลร้ายต่อ *เสถียรภาพของราคาหุ้น* และ *ความเชื่อมั่นในตลาด* โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดคริปโตกำลังได้รับความสนใจ และสถาบันกำลังทยอยเข้าสู่ตลาดมากขึ้น โครงสร้าง PIPE อาจกลายเป็น *ปัจจัยเสี่ยงใหม่* ที่ควรจับตา
ความคิดเห็น: การระดมทุนแบบ PIPE อาจไม่ใช่ทางออกที่ยั่งยืนในอุตสาหกรรมคริปโต โดยเฉพาะเมื่อแรงขายหลังสิ้นสุดล็อกอัปมีแนวโน้มกดดันราคาหนักกว่าที่คาดนะครับ
ความคิดเห็น 0