เอริก ทรัมป์ ลูกชายของทรัมป์และนักธุรกิจในวงการคริปโต ชี้ว่า *สเตเบิลคอยน์อาจเป็นกุญแจสำคัญในการรักษาอำนาจของดอลลาร์สหรัฐ* โดยให้สัมภาษณ์กับ New York Post เมื่อเร็วๆ นี้ว่า “สเตเบิลคอยน์จะเป็นตัวช่วยกอบกู้ดอลลาร์” พร้อมกล่าวถึง *USD1* ซึ่งเป็นสเตเบิลคอยน์ที่พัฒนาโดยโครงการ *เวิลด์ลิเบอร์ตีไฟแนนเชียล(World Liberty Financial)* ที่เขามีส่วนร่วม โดยมองว่าโทเคนนี้จะเป็นเครื่องมือเสริมสร้างเสถียรภาพให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ
USD1 ซึ่งเปิดตัวเมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เป็นโครงการสเตเบิลคอยน์ที่มีครอบครัวทรัมป์อยู่เบื้องหลัง และกลายเป็นประเด็น ‘*ผลประโยชน์ทับซ้อน*’ อย่างร้อนแรงในกรุงวอชิงตัน โดย *เวิลด์ลิเบอร์ตีไฟแนนเชียล* ถูกมองว่าเกี่ยวพันโดยตรงกับทรัมป์ ทำให้เกิดข้อกังวลด้านกฎหมายจำนวนมาก นักกฎหมายอย่าง แอนดรูว์ โรโซว์ ระบุว่า “โครงการนี้คือการท้าทายกรอบรัฐธรรมนูญที่มีไว้เพื่อป้องกันเจ้าหน้าที่รัฐไม่ให้หาผลประโยชน์ส่วนตัว”
*แม็กซีน วอเตอร์ส* สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคเดโมแครต ก็แสดงความกังวลอย่างชัดเจน โดยเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา เธอกล่าวหาว่าทรัมป์ต้องการใช้ USD1 เพื่อ “*แทนที่เงินดอลลาร์สหรัฐในระบบการเงินของชาติ*” ไม่ว่าจะเป็นการจ่ายเงินของกระทรวงที่อยู่อาศัยและการพัฒนาเมือง, การโอนเงินสวัสดิการ ไปจนถึงการชำระภาษี และยังกล่าวเสริมว่า “แล้วคอยน์ไหนจะถูกเลือกใช้ล่ะ? ก็แน่นอนว่าต้องเป็นคอยน์ของทรัมป์เอง”
ข้อกังวลเรื่อง *ผลประโยชน์ทางการเมืองที่เข้ามาเกี่ยวพันกับการออกเหรียญคริปโต* กำลังได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นทั้งในและนอกสภาคองเกรส โดยเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา สมาชิกวุฒิสภาจากพรรคเดโมแครต 5 คนร่วมกันส่งจดหมายแสดงความไม่เห็นด้วยว่า “*การที่ประธานาธิบดีมีผลประโยชน์โดยตรงกับสเตเบิลคอยน์ใดสเตเบิลคอยน์หนึ่ง อาจเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อระบบการเงินของสหรัฐ*”
ประเด็นร้อนรอบ USD1 จึงถูกมองว่าไม่ใช่แค่การทำธุรกิจของครอบครัวทรัมป์ แต่ก้าวไปสู่การเป็นประเด็นใหญ่ในด้านนโยบายการคลังและการเงินของประเทศ โดยเฉพาะเมื่อ *แนวโน้มการลงสมัครรับเลือกตั้งของทรัมป์ในรอบหน้า* เริ่มชัดเจนขึ้น การเฝ้าระวังการใช้คริปโตเคอร์เรนซีเป็น *เครื่องมือทางการเมือง* ก็อาจทวีความเข้มข้นยิ่งขึ้นในอนาคต
ความคิดเห็น 0