ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีนั้นขึ้นชื่อเรื่องความผันผวนที่คาดเดาได้ยาก แต่สำหรับนักลงทุนที่มีประสบการณ์ การวิเคราะห์อย่างรอบด้านและกลยุทธ์จากข้อมูลจริงยังคงเป็นเครื่องมือสำคัญในการค้นหาโอกาส ล่าสุดเทคโนโลยี ‘ปัญญาประดิษฐ์’ โดยเฉพาะ *ChatGPT* ได้เริ่มเข้ามามีบทบาทในฐานะ *เครื่องมือช่วยคัดกรองโปรเจกต์ที่มีแนวโน้มดี* ท่ามกลางเหรียญและโทเค็นนับพันในตลาดคริปโต
*ChatGPT* สามารถประมวลผลจากข้อมูลภาพ ข่าวสาร และปฏิกิริยาของชุมชนบนแพลตฟอร์มต่างๆ อย่างเอ็กซ์(X) หรือ Reddit เพื่อนำมาวิเคราะห์ ‘ภาวะอารมณ์ของตลาด’ ได้อย่างแม่นยำ เช่น การให้โปรแกรมวิเคราะห์หัวข้อข่าวล่าสุด ผสานกับเสียงตอบรับของผู้ใช้งาน จะช่วยให้ผู้ลงทุนเห็นภาพรวมของ ‘เรื่องเล่าหลัก’ หรือ *Narrative* ที่กำลังเกิดขึ้นในตลาดก่อนใคร
ตัวอย่างหนึ่งของการใช้งานคือ พิมพ์คำถามว่า “ต่อไปนี้คือข่าวล่าสุดและข้อมูลชุมชนของ [ชื่อเหรียญ] วิเคราะห์ความรู้สึกโดยรวมและชี้ให้เห็นประเด็นที่กำลังได้รับความสนใจ” วิธีนี้ช่วยให้ผู้ใช้งานไม่ยึดติดกับแค่ตัวเลข แต่เข้าใจภาพรวมผ่านสายตาของนักลงทุนรายย่อยและความคิดเห็นของกลุ่มที่อยู่ปลายเทรนด์ โดยไม่ต้องไถโพสต์เป็นร้อยโพสต์เอง
ในแง่ ‘เทคนิคเชิงกราฟ’ *ChatGPT* ยังเป็นเครื่องมือเสริมอันทรงพลัง เพียงแค่นำค่า RSI, MACD หรือค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50/200 วันของโทเค็นที่ต้องการวิเคราะห์ใส่เข้าไป GPT จะเชื่อมโยงข้อมูลเหล่านี้พร้อมประเมินว่า *แนวโน้มตลาดจะเข้าสู่ขาขึ้นหรือกลับตัวลง* ตัวอย่างเช่น “ใช้ RSI, MACD และเส้นค่าเฉลี่ย 90 วันที่ผ่านมา วิเคราะห์แนวโน้มราคาของโซลานา(SOL)” คำสั่งเช่นนี้จะให้ผลลัพธ์ที่นักลงทุนสามารถใช้ในการตัดสินใจได้ทันที
อีกด้านที่น่าจับตามองคือการวิเคราะห์ ‘ข้อมูลอนเชน’ โดยใช้ GPT เพื่อค้นหาพฤติกรรมของกระเป๋าเงินที่เรียกว่า ‘สมาร์ตมันนี’ หากมีการซื้อเหรียญปริมาณมากจากวอลเล็ตที่เคลื่อนไหวอย่างสม่ำเสมอหรือมีกลยุทธ์แยบยล ก็อาจเป็นสัญญาณของการเข้าซื้อที่ชาญฉลาด คำถามอย่าง “วิเคราะห์ธุรกรรมของวอลเล็ตต่อไปนี้ และประเมินว่าผู้ใช้งานกำลังเพิ่มสถานะการถือครองหรือไม่” สามารถเปิดเผยเบื้องหลังของแรงซื้อได้เป็นอย่างดี
สิ่งที่ทำให้การวิเคราะห์ด้วย GPT แตกต่าง คือ ‘ข้อมูลที่ยึดตามความจริง’ ไม่ใช่การคาดเดา ตัวอย่างเช่น ข้อมูล TVL หรือ ‘มูลค่าทรัพย์สินที่ถูกล็อกไว้ในโปรโตคอล’ สามารถเผยให้เห็นว่าแพลตฟอร์มใดกำลังได้รับความสนใจจากนักลงทุนและดูดซับสภาพคล่องได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งมีความสัมพันธ์สูงกับการเพิ่มขึ้นของราคาในระยะสั้น
อีกหนึ่งแนวทางใหม่คือการใช้โมเดล GPT คู่กันแบบหลายบทบาท เช่น โมเดลหนึ่งวิเคราะห์อารมณ์, อีกตัวตีความกราฟ หรืออีกโมเดลตรวจสอบช่องโหว่ของสมาร์ตคอนแทรกต์ แล้วนำผลทั้งหมดมาประมวลร่วมกันเพื่อ ‘ตัดสินใจผ่านการตรวจสอบข้าม’ ซึ่งใน **รายงานจาก MEXC Research** ระบุว่า ในปี 2025 นักเทรดเจเนอเรชัน Z ถึง 67% เคยใช้เครื่องมือ AI อย่างน้อยหนึ่งตัวภายใน 90 วันที่ผ่านมา *ความคิดเห็น* นี่คือสัญญาณว่าการลงทุนด้วย AI กำลังกลายเป็นความรู้พื้นฐานที่ทุกคนควรเข้าใจ
กล่าวโดยรวม หากโลกการลงทุนเปรียบเสมือนสมรภูมิของข้อมูล คนที่ ‘โชคดี’ มักเป็นคนที่เตรียมพร้อมและวิเคราะห์ซ้ำๆ อย่างมีวินัย ซึ่ง *ChatGPT* กำลังกลายเป็นผู้ช่วยคนสำคัญที่ทำให้นักลงทุนทั่วไปสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกได้ในระดับที่เคยสงวนไว้เฉพาะนักวิเคราะห์มืออาชีพ การแยกแยะข้อมูลเท็จจากความจริง และการจับสัญญาณจากชุมชนให้แม่นยำ อาจเป็นปัจจัยที่ทำให้คุณเจอเหรียญน่าลงทุนก่อนใคร โดยไม่ต้องพึ่งพา ‘โชคชะตา’ แต่อย่างใด
ความคิดเห็น 0