ริปเปิล(Ripple) บริษัทด้านโซลูชันบล็อกเชน ประกาศจับมือกับธนาคารแอบซา(Absa) หนึ่งในสถาบันการเงินรายใหญ่ของแอฟริกา เพื่อเปิดตัวบริการ *ดูแลรักษาทรัพย์สินดิจิทัล (Custody)* อย่างเป็นทางการในทวีปแอฟริกา ความร่วมมือครั้งนี้นับเป็น *พันธมิตรดูแลสินทรัพย์อย่างเป็นทางการครั้งแรก* ของริปเปิลในตลาดแอฟริกา สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มที่ความต้องการโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินบนฐานสินทรัพย์ดิจิทัลเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในตลาดเกิดใหม่
ในการประกาศอย่างเป็นทางการ ริปเปิลระบุว่า “ความร่วมมือนี้ถือเป็นก้าวยุทธศาสตร์สำคัญในการขยายระบบนิเวศของสินทรัพย์ดิจิทัลในแอฟริกา” พร้อมเสริมว่าลูกค้าของแอบซาจะสามารถจัดเก็บสินทรัพย์ที่ผ่านการโทเคน (Tokenized Assets) และคริปโตเคอร์เรนซีได้อย่างปลอดภัยบนระบบโครงสร้างพื้นฐานของริปเปิล ซึ่ง รีส เมอริก(Reece Merrick) ผู้บริหารประจำภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาของริปเปิล ให้ *ความคิดเห็น* ว่า “ความร่วมมือครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของริปเปิลในการ ‘ปลดล็อกศักยภาพสินทรัพย์ดิจิทัลในแอฟริกา’”
แอบซาเป็นธนาคารขนาดใหญ่จากแอฟริกาใต้ มีทรัพย์สินภายใต้การจัดการกว่า 2.07 ล้านล้านแรนด์ หรือราว 119.5 พันล้านดอลลาร์ คิดเป็นประมาณ 166.55 ล้านล้านบาท (ข้อมูลปี 2024) โดยในปีที่ผ่านมา มียอดรายได้รวมกว่า 6.34 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 88,726 ล้านบาท ทั้งนี้ธนาคารมีโครงการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลในหลากหลายด้าน และการใช้เทคโนโลยีของริปเปิลครั้งนี้เป็นการเข้าสู่ตลาด *ดูแลรักษาคริปโตเคอร์เรนซี* อย่างจริงจัง
สำหรับการขยายธุรกิจของริปเปิลในตลาดแอฟริกา นี่ไม่ใช่ครั้งแรก ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนมีนาคม บริษัทได้ร่วมมือกับชิปเปอร์แคช(Chipper Cash) ผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานฟินเทคในแอฟริกา เพื่อเปิดตัวบริการ *โอนเงินข้ามประเทศด้วยคริปโตเคอร์เรนซี* และในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ริปเปิลยังเปิดตัวสเตเบิลคอยน์ที่ผูกกับดอลลาร์สหรัฐอย่างเป็นทางการในตลาดแอฟริกาภายใต้ชื่อ *ริปเปิล USD (RLUSD)* ซึ่งมีพันธมิตรร่วมกระจายการใช้งานหลากหลายเจ้า เช่น บริษัทแลกเปลี่ยนคริปโต VALR และผู้ให้บริการชำระเงินอย่างเยลโลว์การ์ด(Yellow Card)
แจ็ก แมคโดนัลด์(Jack McDonald) รองประธานอาวุโสฝ่ายสเตเบิลคอยน์ของริปเปิล ให้ *ความคิดเห็น* ว่า “เรากำลังขยายการใช้งาน RLUSD แบบค่อยเป็นค่อยไปในประเทศต่างๆ ทั่วแอฟริกา ผ่านพันธมิตรในพื้นที่ พร้อมสร้างรากฐานสำหรับนำกรณีศึกษาในโลกจริงไปทดลองใช้งานในอนาคต”
ด้วยโครงสร้างประชากรที่เน้นคนรุ่นใหม่ และระบบการเงินผ่านมือถือที่เติบโตอย่างรวดเร็ว แอฟริกาจึงกลายเป็น ‘ยุทธศาสตร์สำคัญ’ ของบริษัทด้านบล็อกเชนทั่วโลก โดยเฉพาะริปเปิลซึ่งใช้ทั้ง ‘เทคโนโลยีล้ำสมัย’ และ ‘พันธมิตรระดับท้องถิ่น’ มาเป็นกลยุทธ์ในการแสดงศักยภาพของสินทรัพย์ดิจิทัลและเศรษฐกิจโทเคนในโลกแห่งความเป็นจริง
ความคิดเห็น 0